ศรีสุวรรณคัดค้าน การขึ้นค่ารถเมล์ 22 เม.ย.นี้ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี โปรดสั่งกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางทบทวนมติดังกล่าว
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ เรื่องคัดค้านการขึ้นค่ารถเมล์-ชี้เป็นการตลบหลังคนจนเมืองหลังเลือกตั้ง แถลงการณ์ระบุว่า
ตามที่เพจเฟซบุ๊ก “รถเมล์ไทยแฟนคลับ” ได้โพสต์หัวข้อว่า “ขสมก. ขึ้นค่ารถเมล์ 22 เม.ย.นี้” โดยมีข้อความว่า ประกาศจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และรถโดยสารเอกชนร่วมบริการ เรื่องการปรับอัตราค่าโดยสาร ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ครั้งที่ 10/2561 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 มีมติให้ปรับอัตราค่าโดยสารรถประจำทางสาธารณะ ตั้งแต่ 1 – 7 บาท
ทั้งรถโดยสารธรรมดา (ครีมแดง) รถโดยสารปรับอากาศ รถปรับอากาศ (ครีมน้ำเงิน) รถปรับอากาศยูโรทู (สีส้ม) รถปรับอากาศใหม่ (สีฟ้า) รวมทั้งรถบริการตลอดคืน (เวลา 23.00 – 05.00 น.) ก็ได้กำหนดค่าธรรมเนียมบริการตลอดคืนเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2562 เป็นต้นไปนั้น
การขึ้นค่าโดยสารรถ ขสมก. หลังปีใหม่ไทยนี้ถือว่าเป็นการให้ของขวัญแก่คนเมืองที่เลวร้ายที่สุดของรัฐบาล และเป็นการตลบหลังประชาชน หลังจากที่อ๊อดอ้อนหาเสียงกับประชาชนในนโยบายประชานิยมมาสารพัด จนทำให้จำเป็นต้องหาเงินมาใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสารพัดวิธีการ เพราะการเก็บรายได้ไม่ตรงตามเป้า และผลลัพธ์กลับมาตกเอากับคนยากคนจน คนหาเช้ากินค่ำ ทั้งๆ ที่ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะประเภทนี้รัฐควรมีหน้าที่สนับสนุน ไม่ควรนำไปคิดถึงผลตอบแทนในรูปตัวเงินเป็นผลกำไร-ขาดทุน หากแต่ต้องดำเนินการในรูปแบบสวัสดิการสังคมจึงจะถูกต้อง
นอกจากนั้น ในขณะนี้ยังไม่มีวิกฤตการณ์ด้านราคาน้ำมันหรือค่าเชื้อเพลิงแต่อย่างใด การขึ้นราคาค่าโดยสารรถสาธารณะ จึงเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนในยุคข้าวยากหมากแพงโดยตรง ซึ่งชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้คำนึงถึงคนจนเมืองเลยแต่อย่างใด ส่วนข้ออ้างที่ว่า หากขึ้นราคาค่าโดยสารแล้ว จะทำให้การบริการดีขึ้น การขับรถจะมีระเบียบวินัย ไม่ขับเร็ว จอดรับส่งผู้โดยสารตามป้ายหยุดรถเมล์ดีขึ้นนั้น ล้วนเป็นคำโฆษณาชวนเชื่อที่ไม่มีอยู่จริงในระบบรถโดยสารในเมืองกรุง
และการที่จะนำระบบป้ายอัจฉิยะมาใช้ จะนำระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (อีทิคเก็ต) มาใช้ผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EDC เพื่อให้สู่สังคมไร้เงินสดนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ซึ่ง ขสมก.เคยทำมาแล้ว คือ เครื่องอ่านบัตรโดยสารแบบ E-Ticket และในที่สุดได้ยกเลิกการดำเนินการดังกล่าวไปเมื่อไม่นานมานี้ เพราะล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่กลับไม่มีการสอบสวนเอาผิดผู้อนุมัติอนุญาตแต่อย่างใด
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงขอเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี หากรักและอยากจะซื้อใจประชาชนคนยากคนจนเมืองจริง ได้โปรดสั่งกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ได้ทบทวนมติดังกล่าวเสีย หรือวิธีที่ง่ายที่สุด คือ สั่งปลด รมว.คมนาคม ออกไปเสียเพื่อที่จะทำให้การทบทวนมติการขึ้นค่ารถเมล์เป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้น