สบส.เตือนประชาชนงดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพื่อลดอุบัติเหตุ ป้องกันภาวะเสี่ยงสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว
วันนี้(12 เม.ย.) นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล รองโฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ของไทย ภูมิอากาศโดยรวมทั่วประเทศอยู่ในสภาพร้อนอบอ้าว โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน บางแห่งอาจจะมีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ซึ่งเกินระดับอุณหภูมิปกติของร่างกาย จึงอาจเกิดการเจ็บป่วยจากการสูญเสียน้ำได้ จึงควรดื่มน้ำสะอาดหรือน้ำผลไม้แทน และควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภทเช่น สุรา เบียร์ ไวน์ หรือบรั่นดี ฯลฯ ด้วย
หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สามารถดับกระหาย และทดแทนน้ำที่สูญเสียได้ เฉกเช่นการดื่มน้ำสะอาด แต่ความจริงแล้วฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดฝอยที่อยู่บริเวณใต้ผิวหนังขยายตัวมากขึ้น มีผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่ได้ง่าย ขึ้นยิ่งดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในสภาพอากาศที่ร้อน แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วและออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้น ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นหัวใจทำงานหนักขึ้น อาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้
หากผู้ดื่มมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว มีความเสี่ยงมากขึ้น อีกทั้งอุบัติเหตุจราจรที่มีความรุนแรงและพบบ่อย มักมีความเกี่ยวข้องกับการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจาก ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง และขาดสติสัมปชัญญะในการตัดสินใจช่วงเสี่ยววินาทีระหว่างเกิดอุบัติเหตุส่งผลให้สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
ดังนั้นเพื่อให้ประชาชน ห่างไกลจากโรคภัยและอุบัติเหตุ สบส.ขอแนะให้ประชาชนงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภท ระหว่างที่ออกมาฉลองเทศกาลสงกรานต์ในที่แจ้ง หรือเมื่อต้องขับขี่ยานพาหนะโดยให้หันมาดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอวันละประมาณ 2 ลิตร ซึ่งจะช่วยป้องกันการเจ็บป่วยจากโรคที่เกิดจากอากาศที่ร้อนอบอ้าว เช่น โรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดด ทั้งยังช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ และช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ