รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เปิดเผย เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ร่วมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย ขณะที่วันแรกสงกรานต์ ผู้กระทำผิดสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ 2,344 ครั้ง ยึดรถแล้ว 202 คัน
พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า วันแรกของเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวอย่างหนาแน่น ส่งผลให้การจราจรในหลายพื้นที่ติดขัดเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักที่มุ่งสู่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ตำรวจ ฝ่ายปกครองและจิตอาสา ร่วมกันอำนวยความสะดวกประชาชน อำนวยการจราจรตามจุดบริการและจุดตรวจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่สถานีขนส่งหลักที่เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินรถ เช่น สถานีขนส่งประจำจังหวัด สถานีขนส่งหมอชิต สายใต้ใหม่ เอกมัย โดยเจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจและดูแลความเรียบร้อยในภาพรวม ตลอดจนป้องปรามอาชญากรรม เพื่อให้ผู้เดินทางได้รับความสะดวกเช่นกัน
สำหรับการแก้ไขปัญหาอันเกิดจากการขับขี่ยานพาหนะด้วยมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ที่ คสช. และรัฐบาลได้ใช้ดูแลประชาชนในช่วงเทศกาลมาตลอดนั้น จากสถิติในวันแรกเมื่อวานที่ผ่านมา 11 เมษายน 2562 เจ้าหน้าที่ ตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาท 2,344 ครั้ง จำเป็นต้องเก็บรักษารถไว้ 202 คัน แบ่งเป็นจักรยานยนต์ 158คัน รถยนต์ 44 คัน ยึดใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 20 คน และยึดใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ 121 คน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดีรวม 1,168 คน
ส่วนการคับคั่งของยานพาหนะที่มีเป็นช่วงๆ ในพื้นที่ผ่านชุมชนเมืองใหญ่นั้น เจ้าหน้าที่ได้พยายามเร่งระบายรถที่ชะลอตัว หรือหยุดเป็นเวลานาน เพื่อให้การจราจรเลื่อนไหลไปได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตามในห้วงนี้สภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนจัด อาจส่งผลต่อสภาพยานพาหนะและการขับขี่ การพิจารณาพักรถเป็นระยะๆ ระหว่างการเดินทาง อาจช่วยให้การเดินปลอดภัยยิ่งขึ้น
บทลงโทษสำหรับกรณีเมาแล้วขับ
- อัตราบทลงโทษใหม่ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับขั้นต่ำ 10,000 ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ มีกำหนดไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาต จนถึงการยึดรถที่ใช้ไม่เกิน 7 วัน