กลุ่มอดีตนักบินนกแอร์ ร้องทุกข์ถูกเลิกจ้าง บริษัทไม่จ่ายค่าชดเชย

ประเด็นน่าสนใจ

วันนี้ (14 ก.ย. 63) ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกของรัฐบาล สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กลุ่มตัวแทนอดีตนักบินสายการบินนกแอร์ที่ถูกเลิกจ้าง เดินทางเข้ายื่นขอความเป็นธรรม กรณีถูก บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เลิกจ้าง ก่อนสถาณการณ์โควิด ไม่จ่ายเงินชดเชยนักบินตามกฎหมายแรงงาน

ตัวแทนกลุ่มอดีตนักบินที่ถูกเลิกจ้าง ได้กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 63 บริษัทได้เสนอให้ตนและพวกปรับลดเงินเดือนประจำตำแหน่งลงทั้งหมด 35,000 บาท และวันที่ 12 มี.ค 63 บริษัทได้เสนอให้ตนและพวกปรับลดเงินเดือนลงอีก หากยินยอมก็จะยังคงความเป็นพนักงานบริษัทต่อไป หากไม่ยินยอมก็จะต้องถูกเลิกจ้าง ตนและพวกต้องการที่จะทำงานกับบริษัทต่อ จึงตัดสินใจยอมลดเงินเดือนลงอีก

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 มี.ค 63 บริษัทได้บอกให้ตนและพวกสมัครใจหยุดงานโดยไม่ได้รับเงินเดือนเป็นเวลา 7 เดือน 14 วัน โดยให้หยุดถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2563 ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวบริษัทได้ยื่นข้อเสนอให้ตนกับพวก รวมทั้งพนักงานตำแหน่งผู้ช่วยนักบินและนักบินอีก รวมจำนวน 23 คน แต่กลับไม่ได้แจ้งนักบินอื่นของบริษัทซึ่งมีจำนวน 227 คน ซึ่งถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ

ยิ่งไปกว่านั้นคือการที่ตนและพวกต้องหยุดงานเป็นเวลาติดต่อกันเกิน 6 เดือน จะทำให้ใบอนุญาตนักบินหมดอายุ หากจะกลับมาทำงานในตำแหน่งเดิมจะต้องเข้ารับการอบรมใหม่ ต้องใช้งบประมาณในการฝึกอบรมจำนวนหลายแสนบาทต่อคน ซึ่งผิดวิสัยของผู้ประกอบการสายการบิน เพราะหากบริษัทต้องการให้ตนและพวกเป็นพนักงานต่อไปจริงๆ คงหาทางให้ตนและพวกหยุดงานเป็นระยะเวลาสั้นๆ สลับกับการกลับมาทำงาน เพื่อไม่ให้ใบอนุญาตนักบินหมดอายุ

ดังนั้นการกระทำของบริษัทย่อมเล็งเห็นได้ว่า บริษัทไม่ประสงค์ให้ตนและพวกทำงานต่อไป โดยใช้กลอุบายหลอกลวงให้ตนกับพวกยอมหยุดงานจนใบอนุญาตนักบินหมดอายุและเลิกจ้างในที่สุด เมื่อตนและพวกไม่สมัครใจหยุดงานตามที่บริษัทเสนอตามข้างตน วันที่ 18 มี.ค. 63 ตนกับพวกได้เดินทางไปพบฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัท เพื่อนัดพูดคุยเรื่องการหยุดงานโดยไม่ได้รับเงินเดือนปรากฏว่าฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัท ไม่ได้พูดคุยเรื่องการหยุดงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน มีเพียงหนังสือเลิกจ้างเท่านั้น โดยให้มีผลวันที่ 1 พ.ค. 63

ภายหลังบริษัทออกหนังสือเลิกจ้าง สัญญาจ้างแรงงานยังคงมีผลผูกพันไปจนถึง 30 เม.ย 63 ซึ่งบริษัทในฐานะนายจ้างจะต้องปฏิบัติกับตนและพวกในฐานะลูกจ้าง ให้ถูกต้องตามสิทธิและหน้าที่ที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้าง แต่บริษัทกลับผิดข้อตกลง โดยได้ออกคำสั่งไม่ให้ตนกับพวกได้รับสิทธิค่าชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด เบื้องต้นตนและพวกได้มอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้องต่อศาลแรงงานกลางและศาลอาญากรุงเทพใต้แล้ว

เบื้องต้น นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามารับเรื่องเอาไว้ และรับปากว่าจะติดตามแก้ไขปัญหาให้เรียบร้อย