ภัยแล้ง

ปภ.ประกาศช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งฉุกเฉิน 5 จังหวัด

ปภ. รายงานมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง 5 จังหวัด พร้อมประสานจังหวัดวางแผนบริหารจัดการน้ำ นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 5 จังหวัด ได้แก่…

Home / NEWS / ปภ.ประกาศช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งฉุกเฉิน 5 จังหวัด

ปภ. รายงานมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง 5 จังหวัด พร้อมประสานจังหวัดวางแผนบริหารจัดการน้ำ

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 5 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, นครราชสีมา, ตราด และชลบุรี รวม 5 จังหวัด 13 อำเภอ 39 ตำบล 287 หมู่บ้าน โดยร้อยเอ็ด ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสรวง และอำเภอสุวรรณภูมิ รวม 2 ตำบล 10 หมู่บ้าน, ศรีสะเกษ ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองจันทร์ อำเภอขุขันธ์ อำเภอไพรบึง และอำเภอศรีรัตนะ รวม 9 ตำบล 82 หมู่บ้าน, นครราชสีมา ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอสูงเนิน และอำเภอพระทองคำรวม 4 ตำบล 35 หมูบ้าน, ตราด ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตราด อำเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่ รวม 23 ตำบล 153 หมู่บ้าน, ชลบุรี ประกาศเขตฯ (ภัยแล้ง) 1 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเกาะสีชัง รวม 1 ตำบล 7 หมู่บ้าน

ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยสนับสนุนการแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ปภ. ได้ประสานจังหวัดเตรียมพร้อม แก้ไขปัญหาภัยแล้งไว้ล่วงหน้าครอบคลุมทุกด้าน ควบคู่กับการปรับปรุงบัญชีพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งให้เป็นปัจจุบัน

อีกทั้งตรวจสอบภาชนะกักเก็บน้ำให้ใช้การได้เพียงพอ พร้อมกำหนด จุดแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคที่เข้าถึงประชาชนทุกพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์น้ำ แผนการจัดสรรน้ำ และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้ประชาชนทราบ ตลอดจนรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด และเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนเกษตรกรให้ปรับวิถีทำการเกษตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป