เข้าสู่วันที่ 5 กำลังเจ้าหน้าที่ ยังคงค้นหาชายหลงป่าเทือกเขานางนอน เผยพบแสงประหลาดแนวเขานางนอน – ญาติ ทำพิธีขอขมา คืนน้ำผึ้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากตลอด 4 วัน ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ได้ระดมกำลังค้นหานายสุขเกษม สอนเฒ่า อายุ 46 ปี ที่พลัดหลงในป่าเทือกเขานางนอน พื้นที่หมู่ 7 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 เม.ย.หลังจากเดินทางเข้าไปในป่าพร้อมลูกเขยและเพื่อนบ้าน โดยทางญาติได้เชิญหมอไสยศาสตร์ทำพิธีขอขมาเจ้าป่า เจ้าเขา เจ้าแม่นางนอน เพื่อให้เปิดทางค้นหานายสุขเกษม พบและปลอดภัย ซึ่งทางหมอไสยศาสตร์ บอกว่านายสุขเกษม ผู้สูญหาย ยังมีชีวิต และวันนี้ จะพบตัวนายสุขเกษม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันที่ 18 เม.ย.62 ซึ่งเข้าสู่วันที่ 5 แล้ว ที่นายสุขเกษม หลงอยู่ในป่าเทือกเขานางนอน อย่างไรก็ตามทางตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ ทุกภาคส่วน ยังคงค้นหาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้ากระทั้งค่ำ และเชื่อมั่นว่าจะพบตัวนายสุขเกษม เร็วๆนี้
ล่าสุดเช้าวันนี้ทาง นายนพดล กีรติกรพิสุทธิ์ นายอำเภอทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะผู้อำนวยการค้นหาผู้สูญหาย ได้ประชุมหารือทีมค้นหา ซึ่งประกอบด้วยตำรวจ ทหาร มูลนิธิต่างๆ อาสาสมัคร รวมทั้งชาวบ้าน เพื่อวางแผนการค้นหา โดยจะแบ่งเป็นทีมๆละ 10 คน เดินเท้าค้นหาแบบปูพรมทุกตารางนิ้ว แต่วันนี้เน้นภายในสวนยางพาราขององค์การสวนยางกรุงหยัน
ซึ่งอยู่แนวตีนเขาด้านทิศเหนือของภูเขานางนอน โดยให้ทีมค้นหาเดินค้นหาแบบเรียงหน้ากระดาน และจัดกำลังอีกชุดเดินเท้าขึ้นบนภูเขานางนอนทางด้านทิศใต้ อย่างไรก็ตามฝากถึงเจ้าหน้าที่ทีมค้นหาทุกนาย ให้เกาะกลุ่มกันค้นหา และเพิ่มความระมัดระวัง เพราะพื้นที่ป่าเทือกเขานางนอน เป็นป่ารกทึก ซับซ้อน เพื่อป้องกันการพลัดหลงป่า และวันนี้จะมีกำลังทหารม้า เดินทางมาช่วยค้นหาอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นายบุญฤทธิ์ ไหมทอง หรือ ป้อม ลูกเขย ของนายสุขเกษม สอยเฒ่า และญาติๆ ร่วมทำพิธีคืนน้ำผึ้งที่ได้จากต้นไม้ใหญ่ในป่าเทือกเขานางนอน บริเวณต้นไม้ใหญ่ เป็นการขอขมาเจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่า เจ้าแม่นางนอน ท่ามกลางความเงียบสงัดของป่า ขณะที่มีชาวบ้านรายหนึ่งถ่ายภาพระยะใกล้ของเขานางนอน ขณะที่พระจันทร์เต็มดวงลอยอยู่เหนือเขานางนอน
ปรากฏว่าภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์มือถือของชาวบ้าน ซึ่งถ่ายในจุดเดียวกัน แต่กดถ่ายจำนวนสองครั้ง พบว่ามีความแตกต่างกัน และมีความประหลาด เนื่องจากหนึ่งในนั้นเป็นภาพที่ถ่ายได้ ปรากฏแสงประหลาดลักษณะคาดเป็นแนวนอนริมขอบป่าตีนเขานางนอน แต่อีกภาพกลับไม่มีแสงประหลาด ซึ่งภาพที่ปรากฏแสงประหลาดชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสิ่งลี้ลับ แต่ในส่วนของผู้ที่มีความชำนาญเรื่องถ่ายภาพ มองว่าแสงประหลาดดังกล่าว เป็นการหักเหของแสงขณะถ่ายภาพ