ข่าวตำรวจ ข่าวสดวันนี้ ส่วย

ผบก.บก.จร. สั่งสอบแล้ว คลิปตำรวจเรียกรับส่วย หลังอ้างเป็นประเพณี

รองโฆษกตำรวจรับ จนท.เรียกรับส่วยหน้าขนส่งหมอชิตเป็น ตำรวจจราจรจริง สั่งย้ายเข้า ศปก.บก.จร. พร้อมเร่งสอบสวนแล้ว หากผิดจริง วันนี้ (19 เม.ย. 2562) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก…

Home / NEWS / ผบก.บก.จร. สั่งสอบแล้ว คลิปตำรวจเรียกรับส่วย หลังอ้างเป็นประเพณี

รองโฆษกตำรวจรับ จนท.เรียกรับส่วยหน้าขนส่งหมอชิตเป็น ตำรวจจราจรจริง สั่งย้ายเข้า ศปก.บก.จร. พร้อมเร่งสอบสวนแล้ว หากผิดจริง

วันนี้ (19 เม.ย. 2562) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีปรากฏคลิปวีดีโอเผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดีย เป็นภาพตำรวจจราจรเรียกเก็บเงินค่าจอดรถกลับโซเฟอร์รถประจำทางจำนวน 100 บาท โดยอ้างว่าเป็นประเพณีต้องจ่ายนั้นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อช่วงเช้า วันที่ 17 เมษายน 2562 ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าขนส่งหมอชิตและบุคคลที่ถูกบันทึกภาพดังกล่าว เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจรจริง

โดยในเบื้องต้น พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.บก.จร. ได้สั่งการให้หน่วยต้นสังกัดรายงานชี้แจงขึ้นมาตามลำดับแล้ว พร้อมจะมีคำสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงนายตำรวจรายดังกล่าวที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริตในหน้าที่และจะมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนายดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่ยัง ศปก.บก.จร. เพื่อไม่ให้สัมผัสกับประชาชน

รอง โฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีข้อสั่งการมาโดยตลอด ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจหน้าที่ ประพฤติในทางมิชอบ แสวงหา หรือ เรียกรับผลประโยชน์ หรือ ปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย สร้างความเดือนร้อนแก่พี่น้องประชาชน

โดยได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานด้วยความสุจริต ยุติธรรม ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุกแก่ประชาชน ตลอดจนการอำนวยความยุติธรรม รักษาความสงบเรียบร้อย บังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดอย่างเคร่งครัดและเด็ดขาด พร้อมทั้งมีข้อสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาค

ส่วนให้ผู้บังคับบัญชาควบคุม ตรวจสอบความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชา หากพบว่าเป็นความบกพร่องจะดำเนินการกับผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ตามนัยคำสั่งที่ 1212/2537

ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความพฤตินอกรีต ไปเรียกรับเงินทอง เรียกรับผลประโยชน์อื่นใด หรือแม้กระทั่งใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ ให้ดำเนินทางวินัยและอาญา อย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและเสียกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประพฤติปฏิบัติดี