บ้านลอยน้ำ ภูเก็ต สร้างบ้านกลางทะเล สิ่งปลูกสร้างกลางทะเล

กองทัพเรือชี้แจง การดำเนินการกรณีบ้านลอยน้ำ (Seasteading)

กองทัพเรือชี้แจงการดำเนินการกรณีบ้านลอยน้ำ (Seasteading) เผย การดำเนินการทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย วันนี้ (19 เมษายน 2562) พลเรือโท กาญจน์ ดีอุบล เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณีที่ นาย…

Home / NEWS / กองทัพเรือชี้แจง การดำเนินการกรณีบ้านลอยน้ำ (Seasteading)

กองทัพเรือชี้แจงการดำเนินการกรณีบ้านลอยน้ำ (Seasteading) เผย การดำเนินการทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

วันนี้ (19 เมษายน 2562) พลเรือโท กาญจน์ ดีอุบล เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณีที่ นาย เชด แอนดริว เอลวอทอวสกี้ (CHAD ANDREW ELWARTOWSKY) อายุ 46 ปี สัญชาติอเมริกัน และภรรยาชาวไทย ประกาศความสำเร็จในการตั้งเขตปกครองตนเองกลางทะเลสากลใกล้ภูเก็ต ผ่านทาง website YouTube ว่า

สองสามีภรรยาดังกล่าว ได้ดำเนินการก่อสร้างที่พักอาศัยลอยน้ำ ตามแนวคิดการตั้งถิ่นฐานในทะเลนอกน่านน้ำทะเลอาณาเขต (Seasteading) ในนามของ Ocean Builders โดยมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า Seasteading ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ของบริษัท Phuket Premier Boatyard Co,Ltd. ตั้งอยู่ที่บ้านหยิด หมู่ 7 ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต และถูกนำไปติดตั้งสำเร็จ

ในพิกัด ละติจูด 7 องศา 29.37 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 98 องศา 34.81 ลิปดาตะวันออก หรือบริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะราชาใหญ่ ระยะห่างประมาณ 14 ไมล์ทะเล ซึ่งพิกัดดังกล่าวอยู่ในเขตต่อเนื่องของประเทศไทย ทั้งนี้ กองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 3 ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 เข้าดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน โดยมีการดำเนินการที่สำคัญดังนี้

วันที่ 12 เมษายน 2562 ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 ได้สั่งการให้หมวดบินในสังกัดทัพเรือภาคที่ 3 นำอากาศยานขึ้นบินลาดตระเวนตรวจการณ์ จำนวน 3 เที่ยวบิน และพบสิ่งปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับแจ้ง

ต่อมาในวันที่ 13 เมษายน 2562 ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 ได้ประสานหน่วยงานในศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 ให้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบสิ่งก่อสร้างลอยน้ำด้วยเรือ ต.991 ผลการตรวจพบเฉพาะสิ่งก่อสร้างมีข้าวของเครื่องใช้อยู่ครบ แต่ไม่พบผู้อยู่อาศัย

เวลา 14.50 น. ของวันเดียวกัน พลเรือตรี กฤษณะ กุณฑียะ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะหัวหน้าฝ่ายอำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 (ศรชล. เขต 3 ) ได้ร่วมกับนายอำเภอเมืองภูเก็ต ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต และฝ่ายกฎหมาย ศรชล. ร่วมแถลงข่าวการเข้าตรวจสอบสิ่งก่อสร้าง Seasteading

และในเวลา 17.00 น. หมวดร้อยรักษาความสงบ ทัพเรือภาคที่ 3 ได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต สถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ เข้าตรวจสอบบริษัท Dream Yacht Charter ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างสร้างบ้านลอยน้ำ ในพื้นที่ หมู่ 7 ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมี นายดิพงศ์ บุญสูง เป็นเจ้าของ แจ้งว่า เป็นผู้เช่าพื้นที่ แต่ไม่ระบุวัตถุประสงค์ในการเช่า

วันที่ 15 เมษายน 2562 ทัพเรือภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้นายทหารพระธรรมนูญเข้าดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับนาย CHAD ANDREW ELWARTOWSKY ในข้อกล่าวหากระทำการใด ๆ เพื่อให้ประเทศชาติหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของประเทศตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119

วันที่ 17 เมษายน 2562 พลเรือโท สิทธิพร มาศเกษม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 ได้แถลงข่าวติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการสร้างบ้านลอยน้ำ Seasteading ร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต และกองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจน้ำ

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการเอาผิดกับเจ้าของบ้านลอยน้ำนั้นหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการโดยมีผลการปฏิบัติดังนี้

– สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวของนาย เชด แอนดริว เอลวอทอวสกี้ พร้อมทั้งปิดหมายแจ้งคำสั่งปกครองให้คนต่างด้าวทราบ และขอให้บันทึกรายชื่อลงระบบข้อมูล (ระบบ PIBICS) เป็นบุคคลต้องห้าม

– สถานีตำรวจภูธรวิชิต รับแจ้งความจากทัพเรือภาคที่ 3/ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 พร้อมทั้งดำเนินการสอบปากคำนายทหารพระธรรมนูญ ทัพเรือภาคที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อนำส่งให้อัยการสูงสุด ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20

– จังหวัดภูเก็ต ประสานกระทรวงการต่างประเทศในการเตรียมชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานทูตสหรัฐอเมริกาให้รับทราบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนั้นได้สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต เข้าทำการตรวจสอบโรงงานที่ผลิตโครงสร้าง ซึ่งผลการตรวจสอบโรงงานดังกล่าวไม่มีใบอนุญาต จึงสั่งให้หยุดการดำเนินงานทันที รวมถึงให้พาณิชย์จังหวัด ศุลกากรจังหวัด และองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว เข้าตรวจสอบโรงงานว่ามีการดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายหรือไม่

– สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ออกประกาศแจ้งเตือนชาวเรือให้ระมัดระวังในการเดินเรือ หลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้บริเวณที่ติดตั้ง Seasteading และในส่วนของการเคลื่อนย้าย Seasteading เนื่องจากเป็นพยานวัตถุแห่งคดีอาญาและพยานหลักฐานต้องสมบูรณ์และพร้อมนำสืบในบริเวณพื้นที่ที่กระทำความผิด วัตถุลอยน้ำ Seasteading จึงต้องห้ามยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ซึ่งจะส่งผลเสียรูปคดี และเป็นความผิดหาก เจ้าท่ากระทำ

โดยพลการปราศจากอำนาจหน้าที่ การนี้ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตจะดำเนินการหารือกรมเจ้าท่าเพื่อพิจารณาสั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตใช้อำนาจตาม มาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ในการออกคำสั่งทางปกครอง ให้เจ้าของ Seasteading เคลื่อนย้ายวัตถุพยานออกไปภายใน 30 วัน ซึ่งยังไม่ได้ดำเนินการ

สรุปแนวทางการดำเนินการต่อไป คือ ให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวิชิตส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการสูงสุดดำเนินการรับเป็นคดีแล้ว จึงจะดำเนินการยึดของกลาง (บ้านลอยน้ำ) ได้ โดยการดำเนินการเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำกลับเข้าสู่ฝั่ง ทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต สถานีตำรวจภูธรวิชิต สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต และจังหวัดภูเก็ต เตรียมวิธีการลากบ้านลอยน้ำดังกล่าวโดยมี ขั้นตอนการปฏิบัติงานดังนี้

ขั้นที่ 1 วางแผนเตรียมการตรวจสอบโครงสร้างบ้านลอยน้ำ

ขั้นที่ 2 ออกเรือนำทีมเจ้าหน้าที่จาก กองโรงงาน ฐานทัพเรือพังงา และ ชุดปฏิบัติการพิเศษ ทัพเรือภาคที่ 3 เข้าตรวจสอบโครงสร้าง

ขั้นที่ 3 ปรับแผนการปฏิบัติ และเตรียมอุปกรณ์ในการลากบ้านลอยน้ำ

ขั้นที่ 4 ดำเนินการเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำกลับเข้าฝั่ง

ขั้นที่ 5 ดำเนินการเก็บรักษาบ้านลอยน้ำ ณ สถานที่เก็บ โดยทำการส่งมอบให้กับสถานีตำรวนภูธรวิชิตเพื่อดำเนินการเก็บรักษาเป็นของกลางในการดำเนินคดีต่อไป

กองทัพเรือขอเรียนให้ทราบว่า กองทัพเรือ ซึ่งมีหน้าที่ในการรักษาเอกราช อธิปไตยและความมั่นคงของชาติทางทะเล จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้กระทำการเป็นกลุ่มบุคคลที่มีแนวความคิดจะสร้างถิ่นฐานถาวรกลางทะเลนอกเขตอำนาจอธิปไตยของรัฐต่าง ๆ โดยพยายามอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายมาดำเนินการ

โดยมิได้ดำเนินการขออนุญาตต่อทางการของประเทศไทยแต่อย่างใด รวมทั้งยังเชิญชวนให้กลุ่มคนที่มีแนวความคิดเดียวกันเข้ามาพักอาศัยหรือสร้างเพิ่มเติม ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวแสดงออกถึงความมีเจตนาไม่เคารพต่อกฎหมายของประเทศไทยในฐานะรัฐชายฝั่ง และจะทำให้เกิดรัฐใหม่ในอาณาเขตทางทะเลของประเทศไทย ซึ่งหากไม่มีการดำเนินการแก้ไข ปัญหาดังกล่าวอาจจะขยายวงกว้างและยากที่จะแก้ไข อันจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยรวมทั้งจะส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคมและผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างมหาศาล

เพื่อเป็นการพิทักษ์ไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย และความมั่นคงของชาติทางทะเลที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้ กองทัพเรือจึงได้ประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเข้ามาดำเนินการแก้ไข ปัญหานี้ ตามตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยกองทัพเรือ ขอยืนยันว่า กองทัพเรือ ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งเมื่อตรวจพบการกระทำผิดก็ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปตามกระบวนการตามอำนาจหน้าที่ โดยปัจจุบันเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรวบรวมพยานหลักฐาน

ทั้งนี้ กองทัพเรือ ไม่ได้ส่งกำลังพลติดตามหรือคุกคามตามที่นาย เชด แอนดริว เอลวอทอวสกี้ และภรรยา ให้ข่าวกับสื่อต่างประเทศแต่อย่างใดทั้งสิ้น โดยการดำเนินการทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

กองทัพเรือจึงขอความกรุณาให้ท่านช่วยนำเสนอข้อเท็จจริงดังกล่าวให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป และหากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ขอความกรุณาติดต่อสอบถามได้ที่ สำนักงานโฆษกกองทัพเรือโดยตรง