กลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับความสนใจในวงกว้างสำหรับกรณีที่พบคาเฟ่แมว ย่านวัชรพล ต้องสงสัยว่ามีการทารุณกรรมสัตว์ โดยขังแมวไว้ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันภายในตึกกว่า 50 ตัว รวมทั้งพบซากแมวตายแช่แข็งในตู้เย็น
ล่าสุดมีการแฉว่าเบื้องหลังเจ้าของคาเฟ่เป็นสัตวแพทย์ จับแมวพิการมาผสมพันธุ์กัน ซึ่งยิ่งแมวน่าเกลียดยิ่งได้ราคาสูง ทำให้คาเฟ่นี้เป็นที่วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์อย่างชัดเจน
ที่มาที่ไปของเหตุการณ์นี้
ย้อนเรื่องราวข่าวฉาวคาเฟ่นรกของน้องแมว ย่านวัชรพล สืบเนื่องมาจาก นายทัฬอิญ จิรเปรมธนิก อดีตผู้สมัคร ส.ส. “พรรคเสรีรวมไทย” เขตคันนายาว แขวงรามอินทรา พร้อมด้วยจิตอาสา ได้เข้าช่วยเหลือแมวภายในคาเฟ่ดังกล่าว หลังจากได้รับแจ้งจากผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมาว่า เป็นพนักงานของคาเฟ่แห่งนี้ ได้รับความเดือดร้อน เพราะเจ้าของคาเฟ่เข้าคุกในคดีฉ้อโกง แมวไม่มีคนดูแลต่อ ด้วยความเป็นคนรักแมวและมีจิตอาสา จึงเข้าไปตรวจสอบ และประกาศลงเพจ เพื่อหาคนอุปการะแมว แต่กลับต้องพบสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือแมวที่ถูกทารุณกรรมภายในคาเฟ่แห่งนี้
นายทัฬอิญ บอกเล่าผ่านรายการโหนกระแสว่า ตนเข้าไปในคาเฟ่มีแมวเดินเต็มร้านไปหมด แต่ที่ผงะคือมีแมวพิการหลายตัว อาการที่เป็นคือหวัดแมว ตาเยิ้มน้ำมูกไหล ขี้หูเยอะ ตนปฐมพยาบาลเท่าที่เราทำได้ก่อน ชั้นสองเป็นโรงแรมแมว ตอนเข้าไปมีพนักงานที่อยู่ดูแลด้วย วันนั้นตนพาแมวที่วิกฤติออกมาก่อนเป็นกลุ่มแรก
วันที่ 13 เม.ย. เจ้าของคดีคนที่แจ้งความจนสัตวแพทย์เจ้าของคาเฟ่แมวจำคุก ได้ติดต่อเข้ามา สิ่งที่เขาเล่าที่ทำให้เราทุกคนผงะที่สุดคือ เขาเข้ามาตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. ทราบว่าในนั้นเป็นโรงปั๊มแมว เอาแมวมาอยู่ในห้องเล็กๆ ให้อยู่เป็นคู่ๆ ให้ผสมพันธุ์กัน มีแมวพิการที่เราช่วยนี่แหละเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กันเอง ไม่ใช่แมวที่สมบูรณ์ ความแปลกคือแมวตัวเล็กผิดปกติ
ทั้งนี้ การทารุณกรรมแมวเหล่านี้ ถูกสันนิษฐานว่า จริงๆ แล้วสัตวแพทย์ได้พยายามนำแมวมาผสมพันธุ์กันให้ได้สายพันธ์ุที่แปลก เพื่อขายในราคาสูง ตามความนิยมในปัจจุบัน ซึ่งกระแสโลกโซเชียลขณะนี้เหล่าบรรดาคนรักแมวได้หันมาสนใจแมวหน้าตาแปลก ซึ่งแมวที่ได้รับความนิยมมาก เช่น แมวหน้าตาน่าเบื่อ หน้าตาน่ากลัว เพราะพวกเขามีลักษณะเด่นแตกต่างออกไปจากแมวสายพันธุ์ปกติทั่วไป
ทีมข่าว MThai สอบถามไปยัง ผู้ประกอบการธุรกิจคาเฟ่แมว หลังมีข่าวฉาวซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจสัตว์เลี้ยงในวงกว้างนั้น เจ้าของคาเฟ่แมว Catz Cafe เผยว่า ในกรณีนี้ธุรกิจคาเฟ่แมวของตนไม่ได้รับผลกระทบ แต่มีผลกระทบต่อความรู้สึกของคนรักแมวอย่างมาก ซึ่งปกติแล้วการเพาะพันธุ์แมวจะมีสายพันธุ์ที่ห้ามผสมกันอยู่ ซึ่งอาจทำให้พิการได้
เจ้าของโรมแรมแมวแคทอินน์ ที่เปิดมานานกว่า 6 ปี กล่าวว่า ในฐานะเจ้าของโรงแรมแมวแคทอินน์ รู้สึกหดหู่มากที่ได้ทราบข่าว จึงขอฝากเตือนว่า ก่อนจะฝากแมวต้องเข้าไปดูสถานที่จริง ดูให้ดีว่าเปิดให้บริการมานานแค่ไหน ต้องเข้าไปดูให้แน่ใจว่าแมวจะอยู่ยังไง สิ่งแวดล้อมเป็นยังไง ถ้าทางโรงแรมซื่อสัตย์จริงใจเขาจะต้องให้ดู ถึงจะบอกว่ามีกล้องวงจรปิดก็ต้องเช็คให้ดีว่ามีมุมอับหรือไม่ ปล่อยปละละเลยหรือไม่ ยอมเสียเวลาสักนิดตรวจสอบให้ดีๆ ก่อนใช้บริการ โดยส่วนตัวคิดว่าจะไม่กระทบกับธุรกิจโรงแรมแมวแต่ลูกค้าจะระมัดระวังในการเลือกใช้บริการมากขึ้น
ด้านเจ้าของคาเฟ่ Petcarnival คาเฟ่แมวเมืองทอง เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวอาจจะทำให้คนบางกลุ่มเหมารวมว่าธุรกิจนี้แย่ อันนั้นคงไปบังคับความคิดใครไม่ได้ แต่ถ้าใครเคยมาที่ร้านทางเรา หรือร้านอื่นๆ ที่มาตรฐานดีมีคุณภาพ ก็เชื่อว่าอาจจะทำให้ความคิดของคนที่อคติไปแล้วเปลี่ยนไปได้เช่นกัน ความรู้สึกที่เห็นข่าวก็ตกใจมาก เพราะเคยไปเที่ยวที่คาเฟ่นี้เหมือนกัน ยิ่งเห็นสภาพน้องแมวตามข่าวก็ยิ่งหดหู่
ส่วนเรื่องการทารุณสัตว์แอบเพาะแมวสายพันธุ์ประหลาด คาดว่าคนที่เลี้ยงแมวจริงๆ ชอบแมว เพียงแค่เห็นแมวที่นักข่าวอ้างว่าพันธุ์ประหลาดนั้น จริงๆ มันคือแมว Bambino ที่ถึงอาจจะดูแปลกตาสำหรับคนไทยมาก แต่อย่างน้อยสายพันธุ์นี้ก้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสมาคมแมวสากล USA แล้ว 1 สมาคม เพียงแต่เพราะเป็นสายพันธุ์ที่ยังคงอ่อนแอ สมาคมอื่นๆ จึงหยุดชะงักไปเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ให้แข็งแรงขึ้นเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไร ง่ายๆคือถ้าสายแมวนี้ยังอ่อนแอมากขนาดนี้สมาคมคงนิ่งรอนักบรีดเดอร์ต่อไป แต่ข่าวดูใช้คำรุนแรงปลุกกระแสไปมากกว่า ผู้คนทั่วไปเลยฮือฮามากๆ กับคำว่าแมวพันธุ์ประหลาด สุดท้ายคงขอให้น้องๆ หาบ้านได้มีคนดูแลดีๆ ที่เข้าใจน้องต่อไป
สำหรับในแง่กฎหมายของ ‘คาเฟ่แมว’ นั้น มีดังนี้
1. กิจการคาเฟ่สัตว์เลี้ยง เป็นกิจการควบคุมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขอและการออกใบอนุญาต โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ.2561 ข้อ 7 กำหนดให้กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพประเภทต่าง ๆ เช่น กิจการที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง (1) การเพาะพันธุ์ เลี้ยง และการอนุบาลสัตว์ทุกชนิด (2) การประกอบกิจการเลี้ยงสัตว์ รวบรวม หรือธุรกิจอื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนเข้าชมหรือเพื่อประโยชน์ของกิจการนั้น ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการเรียกเก็บค่าดูหรือค่าบริการในทางตรงหรือทางอ้อมหรือไม่ก็ตาม ต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการเท่านั้น ถ้าไม่มีถือว่าผิดกฎหมายและถ้ามีแล้วไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ก็มีสิทธิถูกเพิกถอนใบอนุญาตนั้นได้
2. การเลี้ยงดูสัตว์ภายในคาเฟ่ ถ้าดูแลไม่ดีไม่ว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองให้เจ้าของ ต้องดำเนินการจัดสวัสดิภาพสัตว์ให้เหมาะสม
ไม่ว่าจะเป็นการจัดให้สัตว์เลี้ยงในคาเฟ่ ได้รับอาหารและน้ำในปริมาณและคุณภาพที่เหมาะสม จัดให้สัตว์อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการดำเนินชีวิตและความปลอดภัย จัดให้สัตว์มีสุขภาพอนามัยที่ดี จัดควบคุมป้องกันโรคที่เหมาะสม รักษาเมื่อสัตว์เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บโดยไม่ชักช้า หรือจัดการไม่ให้สัตว์ได้รับความเครียด หวาดกลัว เจ็บปวดหรือทุกข์ทรมานโดยไม่มีเหตุอันสมควร และต้องจัดให้สัตว์ได้มีโอกาสแสดงออกซึ่งพฤติกรรมตามธรรมชาติที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตและพลานามัยของสัตว์ ซึ่งถ้าเจ้าของคาเฟ่ไม่ดำเนินการการจัดสวัสดิภาพสัตว์ให้เหมาะสม ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน สี่หมื่นบาท
อีกทั้ง ถ้าการเลี้ยงดูของเจ้าของคาเฟ่ หรือผู้ดูแลนั้น เป็นเหตุของการกระทำหรืองดเว้นการกระทำใด ๆ ให้สัตว์ได้รับความทุกข์ทรมานไม่ว่าทางร่างกายหรือจิตใจ ได้รับความเจ็บปวด ความเจ็บป่วย ทุพพลภาพหรืออาจทำให้สัตว์นั้นตาย หรือใช้สัตว์พิการ สัตว์เจ็บป่วย สัตว์ชราหรือสัตว์ที่กำลังตั้งท้องเพื่อแสวงหาประโยชน์ ใช้สัตว์ประกอบกามกิจ ใช้สัตว์ทำงานจนเกินสมควรหรือใช้ให้ทำงานอันไม่สมควรเพราะเหตุที่สัตว์นั้นเจ็บป่วย ชราหรืออ่อนอายุ เช่นนี้ ก็เข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร มีโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณสัตว์ฯ พ.ศ.2557
นอกจากนี้ เจ้าของสัตว์ มีหน้าที่ต้องนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า รวมทั้งต้องทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ด้วย ตาม พ.ร.บ.โรคพิษสุนัขบ้า พ.ศ.2535 ฝ่าฝืนก็มีโทษตามกฎหมายเช่นกัน แต่ถ้าเจ้าของคาเฟ่ ปิดกิจการ แล้วปล่อย ละทิ้งหรือกระทำการใด ๆ ให้สัตว์นั้นพ้นจากการดูแลของตนโดยไม่เหตุอันสมควร ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท ซึ่งกรณีที่พบสัตว์ถูกปล่อย ละทิ้ง หรือไม่มีเจ้าของ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการจัดสวัสดิภาพให้เหมาะสมตามสมควร ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณสัตว์