นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยถึงการปรับขึ้นค่าโดยสารรถโดยสารสาธารณะตามมติของคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ในวันที่ 22 เม.ย. นี้ ว่า ขสมก. ได้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารทราบตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา พร้อมกับทำความเข้าใจกับพนักงานทั้งหมดและเพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ขสมก. จะปรับค่าโดยสารแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกในวันที่ 22 เม.ย. 62 – 7 เม.ย. 63 จะยังปรับไม่เต็มเพดาน หลังครบปีจะปรับขึ้นส่วนที่เหลือ เช่น รถธรรมดาเก็บ 6.50 บาท เป็น 8 บาท
ทั้งนี้ ยอมรับว่าประชาชนต้องมีคำถามเรื่องคุณภาพกับการปรับค่าโดยสารแต่ ขสมก. ยืนยันว่า การปรับค่าโดยสารมีข้อดี เพราะคณะกรรมการขนส่งทางบกกลางปรับอัตราค่าโดยสารรถเก่าและรถใหม่ต่างกัน ซึ่งจะเป็นการสร้างแรงจูงใจสำหรับรถร่วมขสมก. ที่ต้องการปรับขึ้นราคา ต้องจัดหารถที่มีคุณภาพมาให้บริการเพราะหากเป็นรถใหม่จะเก็บค่าโดยสารเพิ่มได้ 15-25 บาท
ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า ราคาค่าโดยสารที่ปรับขึ้นไม่เกี่ยวกับค่าเชื้อเพลิง เนื่องจากภาคเอกชนเสนอแนวทางขอปรับมาหลายครั้ง เพราะค่าโดยสารที่ผ่านมาต่ำกว่าต้นทุน และราคาไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง อีกทั้งไม่ได้ปรับขึ้นมานานหลายปีส่งผลให้รถ ขสมก. และรถร่วมหลายรายขาดทุน ต้องล้มกิจการ
โดยในการปรับราคาจะแบ่งเป็น
รถเมล์ ในสังกัดของขสมก.
- รถร้อนครีมแดง (ตลอดสาย) 6.50 บาท ปรับเป็น 8 บาท
- รถร้อนครีมแดง บริการตลอดคืน (ตลอดสาย) จาก 8 บาท ปรับเป็น 9.50 บาท
- รถ ปอ. ครีมน้ำเงิน ปรับขึ้น 2 บาท ซึ่งจาก 10-18 บาท จะกลายเป็น 12-20 บาท (ตามระยะทาง)
- รถ ปอ. ยูโรทูสีส้ม / NGV สีขาว ปรับขึ้น 2 บาท จาก 11-23 บาท เป็น 13-25 บาท (ตามระยะทาง)
- รถ ปอ. NGV สีฟ้ารุ่นใหม่ จาก 11-23 บาท เป็น 15-20-25 บาท (ตามระยะทาง)
- ขึ้นทางด่วน เพิ่ม 2 บาท ทั้งรถร้อนและรถแอร์
- บริการตลอดคืน เวลา 23.00 – 05.00 น. ปรับเพิ่ม 1.50 บาท
รถของบริษัทเอกชน
- รถมินิบัสสีส้ม รถธรรมดาสีขาวน้ำเงิน และรถธรรมดาสีชมพู จาก 9 บาท เป็น 10 บาท (ตลอดสาย)
- รถ ปอ. สีเหลืองบางสาย จาก 13 บาท เป็น 14 บาท (ตลอดสาย)
- รถ ปอ. ครีมน้ำเงิน / รถ ปอ. สีเหลืองบางสาย จาก 12-20 บาท เป็น 13-21 บาท (ตามระยะทาง)
- รถ ปอ. สีฟ้ายูโรวัน/ยูโรทู / รถ ปอ. NGV สีเหลือง จาก 13-25 บาท เป็น 14-26 บาท (ตามระยะทาง)
- รถ ปอ. NGV สีฟ้ารุ่นใหม่ จาก 13-25 บาท เป็น 15-20-25 บาท (ตามระยะทาง)