ประเด็นน่าสนใจ
- ก่อนหน้านี้มติที่ประชุมพรรคเพื่อไทย เสียงส่วนใหญ่ ไม่ร่วมลงชื่อในญัตติแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ร่วมกับ พรรคก้าวไกล
- พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับกรณีมีมติไม่ร่วมลงชื่อในญัตติดังกล่าว
- ทั้งนี้ยืนยันว่าจะยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชนบนเส้นทางประชาธิปไตยตลอดไป
วานนี้ (27 ส.ค.2563) พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับกรณีมีมติไม่ร่วมลงชื่อในญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับอำนาจสมาชิกวุฒิสภา โดยระบุว่า
ตามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย มีมติไม่ร่วมลงชื่อในญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับอำนาจสมาชิกวุฒิสภา ในการให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 หรือการยกเลิกสมาชิกวุฒิสภาตาม มาตรา 269 การยกเลิกหน้าที่ และอำนาจของวุฒิสภาในเรื่องการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ ตาม มาตรา 270 การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่วุฒิสภาหรือสภาผู้แทนราษฎรยับยั้งไว้ตาม มาตรา 137 (2) หรือ (3) ตาม มาตรา 271 นั้น ขอชี้แจงว่า
- พรรคเพื่อไทยเห็นว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีปัญหามากมายในแทบทุกหมวด รวมทั้งบทเฉพาะกาล ซึ่งรวมทั้งสิ้นมี 279 มาตรา หลายปัญหาโยงใยเกี่ยวข้องกันในหลายหมวด และหลายบทมาตรา
- พรรคเพื่อไทยเห็นว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีขึ้นเพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และมุ่งสืบทอดระบอบเผด็จการอำนาจนิยม โดยเห็นได้ชัดเจนจากบทบัญญัติในหลายมาตรา ไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระต่างๆ ระบบเลือกตั้ง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี การปฏิรูปประเทศ ฯลฯ
- การสร้างกลไกให้ประชาชนเป็นผู้ร่างและให้ความเห็นชอบในร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งต้องทำทั้งฉบับ
- การให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และให้ประชาชนทั้งประเทศลงประชามติจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
- ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 ดังกล่าว พรรคเพื่อไทยยกร่างตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 และได้เสนอพรรคร่วมฝ่ายค้าน 7 พรรคในขณะนั้นตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2562 โดยกำหนดว่าจะไม่แก้ไขในหมวด 1 รวมทั้ง หมวด 2 ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับองค์พระมหากษัตริย์
- ที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันทั้งหมดว่า ในเบื้องต้นควรเสนอญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 ตามร่างเดิมเพียงประเด็นเดียวก่อน และนัดวันยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2563 ช่วงเช้า โดยขอให้ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมลงชื่อเสนอญัตติ ซึ่งต่อมาก่อนยื่นญัตติ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล จำนวน 21 คน ขอถอนชื่อออก
โดยให้เหตุผลว่าร่างแก้ไขมาตรา 256 ดังกล่าวมีการสงวนไม่แก้ในหมวดที่ 1 และหมวดที่ 2 ไว้ ทั้งๆที่ผู้เข้าร่วมประชุมของพรรคก้าวไกลในวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2563 ประกอบด้วย หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ส.ส.รังสิมันต์ โรม และ อ.ปิยะบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะกรรมาธิการฯ ของพรรคก้าวไกล ได้เห็นชอบในร่างดังกล่าวมาตั้งแต่ต้นจนถึงวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2563 และเปลี่ยนใจในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2563
- พรรคเพื่อไทยขอเรียนว่า การดำเนินการของพรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันด้วยการให้มี ส.ส.ร. นั้น ทางพรรคจึงเริ่มจากการขอความเห็นชอบจากพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค จนปัจจุบันพรรคร่วมรัฐบาลก็เห็นด้วย นักเรียน นักศึกษา ประชาชนก็เห็นด้วย และเรียกร้องให้มี ส.ส.ร. จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
- การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในประเด็นอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น โดยเฉพาะเรื่องอำนาจของสมาชิกวุฒิสภา ที่มาของวุฒิสภา และ มาตรา 279 นั้น ล้วนแต่อยู่ในวิสัยที่จะร่วมปรึกษาหารือ และสร้างความเห็นพ้องร่วมกันต่อไปในห้วงเวลาที่เหมาะสม ไม่ใช่การสนองความต้องการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยไม่คำนึงถึงสภาพความเป็นจริง และปัจจัยเกื้อหนุนที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ
พรรคเพื่อไทยขอเรียนว่า ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทย ในปัจจุบัน ทั้งพรรค ส.ส. สมาชิก และผู้สนับสนุน ถูกข่มเหงรังแกอย่างโหดเหี้ยม จากระบอบเผด็จการอำนาจนิยมมาอย่างต่อเนื่องนับครั้งไม่ถ้วน แต่พวกเราก็อดทน อดกลั้น ยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและความถูกต้องอย่างไม่เคยย่อท้อ เราเจ็บปวดยิ่งกว่าใครทั้งสิ้น
แต่เราก็หวังให้บ้านเมืองมีสันติสุข และใช้ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงแก้ปัญหาความขัดแย้งและการบริหารประเทศ เพื่อให้ประชาชนทุกคนมีอนาคต มีความหวังที่เป็นจริงได้ มีความมั่นคง มีความสุข พรรคเพื่อไทยต้องการพัฒนาไปสู่ความเป็นสถาบันทางการเมือง ที่มีคำตอบเป็นรูปธรรมให้พี่น้องประชาชน และจะยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชนบนเส้นทางประชาธิปไตยตลอดไป
อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็ม : พรรคเพื่อไทย