ต่อกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงการคลังออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจะมีการแจกเงินให้ประชาชนคนละ 1,500 บาท กระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง ซึ่งได้รับความสนใจและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น
รายละเอียดในเรื่องนี้ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์ ภายหลังจากกระทรวงการคลังเสนอมาตรการดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ เพื่อที่จะได้มีผลใช้ทันที ซึ่ง MThai จะรายงานให้ทราบต่อไป
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว แบ่งออกเป็น 3 มาตรการ ดังนี้
มาตรการที่ 1. โครงการ ยิ่งเที่ยว ยิ่งเท่ ช่วยเปย์ เมืองรอง แจกเงินให้ประชาชนตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป คนละ 1,500 บาท นำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อีเพย์เมนท์ ในเมืองรอง 55 จังหวัด ผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ ต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันและขอใช้ระบบกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้คลังโอนเงินให้ 1,500 บาทเข้าระบบดังกล่าว คาดว่าจะมีคนเข้าโครงการ 10 ล้านคน และจะเริ่มมาตรการในเดือน พ.ค. นี้ โดยใช้งบประมาณกลางจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท
มาตรการที่ 2. ขยายมาตรการลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยว จากที่มาตรการนี้สิ้นสุดเมื่อเดือน ธ.ค. 2561 โดยประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบริการนำเที่ยว ค่าที่พักโรงแรม โฮมสเตย์ไทย และสถานที่พักไม่ได้เป็นโรงแรม มาใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจริง พร้อมทั้งจะมีการขยายวงเงินลดหย่อนให้มากกว่า 15,000 บาทด้วย เพื่อจูงใจให้เกิดการท่องเที่ยว และการบริโภคภายในประเทศ
มาตรการที่ 3. ขยายระยะเวลาเปิดจุดให้บริการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติออกไปอีก 6 เดือน มีผลตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ย. 2562 โดยโครงการนี้หลังการทดลอง 6 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ขอคืนภาษีกว่า 5,000 คน มูลค่าภาษีคืน 4 ล้านบาท ส่งผลให้เกิดการนำเงินมาใช้จ่ายต่อในประเทศเพิ่ม
ทั้งนี้ ที่มาของการออกมาตรการดังกล่าว เกิดจากเศรษฐกิจไตรมาส 1-2 มีสัญญาณชะลอตัวจากเศรษฐกิจโลกผันผวนและปัญหาการเมืองภายในประเทศ