จับปลาบึก จับปลาฤดูวางไข่ ศรีสุวรรณ จรรยา

‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง ป.ป.ช. สอบกรณีปล่อยให้ผู้รับเหมาจับปลาบึกฤดูปลาวางไข่

ก่อนหน้านี้ อบต.เกาะตะเภา ได้ร่วมกับผู้รับเหมารายหนึ่ง จัดกิจกรรมทอดแหในหนองเล่ม โดยปลาส่วนใหญ่ที่จับได้เป็นปลาบึกตัวใหญ่

Home / NEWS / ‘ศรีสุวรรณ’ ร้อง ป.ป.ช. สอบกรณีปล่อยให้ผู้รับเหมาจับปลาบึกฤดูปลาวางไข่

ประเด็นน่าสนใจ

  • ก่อนหน้านี้ อบต.เกาะตะเภา ได้ร่วมกับผู้รับเหมารายหนึ่ง จัดกิจกรรมทอดแหในหนองเล่ม โดยปลาส่วนใหญ่ที่จับได้เป็นปลาบึกตัวใหญ่
  • ’ศรีสุวรรณ’ ชี้ถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนประกาศกรมประมง เนื่องจากเป็นช่วงฤดูปลาวางไข่
  • โดยร้องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนสอบสวนเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามกฎหมาย

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตามที่ทาง อบต.เกาะตะเภา ได้ร่วมกับผู้รับเหมารายหนึ่ง จัดกิจกรรมทอดแหในหนองเล่ม ซึ่งเป็นหนองน้ำประวัติศาสตร์ ที่ปรากฏในพงศวดานพ่อขุนรามคำแหง ตั้งอยู่หน้าวัดพระบรมธาตุบ้านตาก ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของ จ.ตาก อันเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์ยุทธหัตถี เป็นหนองน้ำที่ชาวบ้านและผู้ที่มาทำบุญ ได้นำปลาไปปล่อย เพื่อเป็นเขตอภัยทานซึ่งชาวบ้านขนานนามว่า “ดินแดนบุญ”นั้น

การจัดกิจกรรมทอดแหจับปลาในหนองน้ำดังกล่าว เป็นการจัดโดยนักธุรกิจที่มาจาก จ.กำแพงเพชร ที่รับเหมามาจากนายก อบต. 2 แสนบาท มีการขายบัตรในราคาบัตรละ 600 บาท และมีผู้ไปทอดแหกว่า 700 คน ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นนักล่าปลา ที่มาจากสมาคมทอดแหและสมาคมตกปลาในพื้นที่ที่นักธุรกิจรายนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องโดยปลาส่วนใหญ่ที่จับได้เป็นปลาบึกตัวใหญ่ น้ำหนักระหว่าง 150 -250 กิโลกรัม ที่ชาวบ้านนำมาปล่อยอยู่ในหนองน้ำดังกล่าวมาหลายสิบปี

ทั้งนี้แม้ทางนายก อบต.เกาะตะเภา จะออกมาแถลงแก้ตัวว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และต้องการนำปลาออกไปจากหนองน้ำ เพราะมีงบโครงการขุดลอกหนองเล่ม และได้ทำประชาคมกับชาวบ้านแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีการจ้างผู้รับเหมามาจัดกิจกรรมขายบัตรขายชีวิตสัตว์ ในพื้นที่เขตอภัยทานหรือในพื้นที่อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสําหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเช่นนี้

กิจกรรมการขายบัตรทอดแหที่ อบต.เกาะตะเภาในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำจืดมีไข่ หรือวางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน และกำหนดเครื่องมือ วิธีทำการประมง และเงื่อนไขในการทำการประมง พ.ศ.2563 ที่ห้ามทำการล่าสัตว์น้ำด้วยแหหรือข่ายในช่วงฤดูน้ำแดง หรือช่วงฤดูปลาวางไข่ ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน -31 สิงหาคม 2563 ขัดต่อ พรก.การประมง 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ม.70 ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท หรือปรับจำนวน 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมง แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่ากัน

ทั้งนี้หนองเล่ม เป็นที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสําหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน อํานาจหน้าที่ในการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันหนองน้ำดังกล่าวเป็นอํานาจหน้าที่ของนายอําเภอ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน พ.ศ.2553

ดังนั้นนายอำเภอบ้านตาก และนายก อบต.เกาะตะเภาจะปฏิเสธความรับผิดชอบไปเสียมิได้ ถือได้ว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเหตุให้ทรัพย์สินสาธารณะเกิดความเสียหาย รวมทั้งประมงจังหวัดตาก ก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วยในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายประมง แต่กลับมิได้ดำเนินการเอาผิดผู้จัดกิจกรรมและผู้จับปลาทั้ง 700 รายแต่อย่างใด สมาคมฯจึงจำเป็นต้องร้องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนสอบสวนเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามกฎหมายต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด