อธิบดีกรมป่าไม้ ไล่ออก 2 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบค้าไม้ข้ามชาติในท้องที่ปราจีนบุรี และจันทบุรี หลังจากขยายผลพบว่าผิดจริง
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ เปิดเผยความคืบหน้า กรณีเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าไม้ข้ามชาติในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี และจันทบุรีว่า นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ได้ลงนามเห็นชอบให้ออก 2 เจ้าหน้าที่ของกรมป่าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบไม้พะยูง รายแรกเป็นพนักงานราชการ ตำแหน่งผู้ช่วยพิทักษ์ป่า ประจำศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง)
จากการตรวจสอบพบเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบทำไม้พะยูง เหตุเกิดในเขตพื้นที่ป่าไม้ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ในท้องที่ ตำบลสำพันตา อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้จับกุมดำเนินคดีขบวนการลักลอบทำไม้พะยูง ได้พร้อมผู้ต้องหาจำนวน 4 คน พร้อมรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำผิด และไม้พะยูงของกลาง 19 ท่อน ปริมาตร 3.37 ลูกบาศก์เมตร
ต่อมาอธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้นายชีวะภาพ ชีวะธรรม พร้อมด้วยนายนิพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษพยัคฆ์ไพร นำกำลังลงขยายผลโดยละเอียดจนพบว่า มีเจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ไปเกี่ยวข้องกับขบวนการ กระทั่งได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ได้สรุปเรื่องราวเสนอมีความเห็นว่ากระทำผิดจริง จึงเห็นสมควรให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวให้ออกจากราชการ
สำหรับอีกรายชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ได้ขยายผลตรวจพบว่า ไปมีส่วนพัวพันกับขบวนการลักลอบค้าไม้พะยูง เป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งพนักงานพิทักษ์ป่า ส 2 ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ จบ.8 (คลองแดง) ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงวันที่ 9 มกราคม 2562 ซึ่งชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เข้าจับกุมขบวนการลักลอบไม้พะยูงขบวนการใหญ่ ที่มีทั้งพลเรือนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ภาคตะวันออก และภายหลังชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพรได้ขยายผลจนพบว่า มีเจ้าหน้าที่ 4 รายที่เกี่ยวข้อง อธิบดีกรมป่าไม้
จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบ กระทั่งมีคำสั่งให้ไล่ออกเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ จบ.8 (คลองแดง) และมีการแจ้งความดำเนินคดีทางอาญาด้วย ต่อมาชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ได้ขยายผลต่อเนื่องพบว่า ยังมีเจ้าหน้าที่ตำแหน่งพนักงานพิทักษ์ป่า ส 2 อีก 1 รายที่ไปเกี่ยวข้อง และได้เสนอความเห็นให้ นายอรรถพล เจริญชันษา ลงนามเห็นชอบให้ออกจากราชการเพิ่มอีก 1 ราย
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เสนอให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการถือปฏิบัติ ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการในระบบราชการอย่างเคร่งครัด ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561
โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่ภาครัฐที่กระทำผิดทั้งอาญาและทางวินัย ซึ่งการกระทำผิดดังกล่าวทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการอย่างรุนแรง จึงเห็นสมควรให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบพบการกระทำผิด จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่มีพฤติการณ์ดังกล่าวหยุดการกระทำ ปรับตัวใหม่ เพราะหากมีการตรวจสอบพบจะถูกดำเนินการทั้งทางวินัยคือให้ออกและถูกดำเนินคดีอาญาอีกด้วย