น้ำท่วม ปากีสถาน

ปากีสถาน น้ำท่วมหนัก เสียชีวิตแล้ว 64 ราย

มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 64 รายและบาดเจ็บอีกหลายสิบรายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากมรสุมและอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับฝนในช่วงระยะเวลา 3 วันที่ผ่านมา ในภูมิภาคต่างๆ ของปากีสถาน

Home / NEWS / ปากีสถาน น้ำท่วมหนัก เสียชีวิตแล้ว 64 ราย

อิสลามาบัด, 11 ส.ค. (ซินหัว) — หน่วยงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ (NDMA) รายงานเมื่อเย็นวันอาทิตย์ (9 ส.ค.) ว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 64 รายและบาดเจ็บอีกหลายสิบรายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากมรสุมและอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับฝนในช่วงระยะเวลา 3 วันที่ผ่านมา ในภูมิภาคต่างๆ ของปากีสถาน

รายงานของหน่วยงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติระบุว่าเด็กอย่างน้อย 19 รายและผู้หญิง 9 รายเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุอันเนื่องจากฝน ในพื้นที่ต่างๆ ตั้งแต่ตอนเหนือไล่ไปถึงตอนใต้ของประเทศ

แคว้นไคเบอร์ปัคตูนควาทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยมีผู้เสียชีวิต 25 ราย ตามด้วยแคว้นสินธ์ทางตอนใต้ที่มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และแคว้นบาลูจิสถานทางตะวันตกเฉียงใต้และแคว้นปัญจาบทางตะวันออก ซึ่งมีรายงานผู้เสียชีวิต 8 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 รายในภูมิภาคกิลกิต-บัลติสถานทางตอนเหนือของประเทศ

น้ำท่วมฉับพลันทำลายสะพานรวม 4 แห่ง แบ่งออกเป็น 3 แห่งในบาลูจิสถานและอีก 1 แห่งในไคเบอร์ปัคตูนควา ตัดทางเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านหลายร้อยหมู่บ้าน รายงานระบุเพิ่มเติมว่ายังมีบ้านเรือนกว่า 300 หลังได้รับความเสียหายหรือพังยับเยินด้วย

เฮลิคอปเตอร์พาทหารของกองทัพปากีสถานหลายร้อยคนเร่งรุดไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่อเป็นแรงเสริมให้หน่วยกู้ภัยและบริการบรรเทาทุกข์ที่มีทรัพยากรและความเชี่ยวชาญไม่เพียงพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินในปัจจุบัน

“กองกำลังของกองทัพปากีสถานกำลังเร่งบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือพื้นที่ต่างๆ ของเขตดาดูในแคว้นสินธ์ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเชี่ยวกรากและการทำลายคันกั้นน้ำของเขื่อนไนกัจ (Nai Gaj Dam)” ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกองทัพปากีสถาน (ISPR) กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (9 ส.ค.)

“เรือวิศวกรและทีมแพทย์ของกองทัพกำลังช่วยเหลือผู้คนที่ติดค้างไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยกว่า มีการจัดตั้งค่ายแพทย์และให้การดูแลทางการแพทย์ที่จำเป็น พร้อมทั้งมอบอาหารปรุงร้อนให้ประชาชนที่รับผลกระทบด้วย”

ราช ซาห์ซามาน คูห์โร รองผู้บัญชาการตำรวจเขตดาดู กล่าวกับสื่อว่ามีการทำลายคันกั้นน้ำของเขื่อนไนกัจหลายครั้งเมื่อเย็นวันเสาร์ (8 ส.ค.) ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหมู่บ้านใกล้เคียงจนชาวบ้านหลายพันคนต้องรีบอพยพเพื่อความปลอดภัย

“เรากลัวว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากภัยน้ำท่วม ฟาร์มปศุสัตว์และไร่ฝ้ายฤดูร้อนของชาวบ้านท้องถิ่นต้องเสียหาย” รองผู้บัญชาการกล่าวและเผยว่าถนนหนทางและเครือข่ายการสื่อสารทั้งหมดในเขตได้รับผลกระทบ

พายุฝนยังส่งผลให้เกิดน้ำไหลบ่าอย่างรุนแรงในหลายเมืองหลัก เช่น เมืองท่าการาจีทางตอนใต้และเมืองลาฮอร์ทางตะวันออก ทำให้ชีวิตประจำวันใน 2 เมืองธุรกิจดังกล่าวหยุดชะงักอย่างรุนแรง