ข่าวสดวันนี้ เสือดำ แก่งกระจาน

ตื่นตา! เสือดำ โผล่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

นักท่องเที่ยวตื่นเต้นหลังพบเสือดำและเสือดาว 2 สัตว์ป่าคุ้มครอง บริเวณอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน วันนี้ (30 เม.ย. 2562) ผู้คนในโลกออนไลน์ ต่างพากันส่งต่อภาพสุดตื้นตันประทับใจ ในความงามทางธรรมชาติ จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Arpo Kosirisant  หลังจากเขาพบเสือดำ…

Home / NEWS / ตื่นตา! เสือดำ โผล่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

นักท่องเที่ยวตื่นเต้นหลังพบเสือดำและเสือดาว 2 สัตว์ป่าคุ้มครอง บริเวณอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

วันนี้ (30 เม.ย. 2562) ผู้คนในโลกออนไลน์ ต่างพากันส่งต่อภาพสุดตื้นตันประทับใจ ในความงามทางธรรมชาติ จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Arpo Kosirisant  หลังจากเขาพบเสือดำ และเสือดาว เดินอยู่ในป่า ระหว่างทางไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

โดยภาพได้เผยให้เห็นภาพว่า เสือดำ และเสือดาว กำลังเดินเคียงคู่กันอยู่ริมทาง เพื่อเข้าไปป่าในพื้นที่บ้านกร่าง ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน  ขณะที่ผู้โพสต์ได้มีข้อความระบุว่า

“เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิต ขณะที่กำลังเดินทางไปบ้านกร่างกับน้าแวนและพ่อ ได้เจอเสือดำและเสือดาวยืนอยู่คู่กัน ด้วยความตกใจเลยรีบยกกล้องขึ้นมาถ่ายผ่านฟิล์มนิรภัยที่ติดอยู่บนกระจกรถของน้าแวน บวกกับความลนลานของตัวเองภาพที่ถ่ายมาเลยเบลอใช้ไม่ได้ทุกภาพ แต่ผมก็ยังนับว่าโชคดีมากที่ได้เจอสัตว์สองตัวนี้พร้อมกันในเวลาเดียว 26/4/2562 16.50 น. แคมป์บ้านกร่าง”

ทั้งนี้เมื่อเรื่องราวดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปก็ทำให้คนเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างทึ่งกับการมีชีวิตของสัตว์ทั้งสองตัว พร้อมภาวนาให้พวกมันอยู่รอดปลอดภัยในป่าของไทยต่อไป อย่าให้ใครคิดมาล่ามันเอาเป็นไปอาหารและความสนุกเหมือนอย่างที่เคยเกิดเป็นคดีดังขึ้นมา

เสือดำ และเสือดาว จัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอยู่ในวงศ์เสือและแมว (Felidae) เป็นเสือขนาดใหญ่รองจากเสือโคร่ง ซึ่งสัตว์ 2 ชนิดนี้จัดอยู่ในเสือชนิดเดียวกัน โดยการผสมพันธุ์ของเสือดาว ลูกเสือที่เกิดใหม่ในครอกเดียวกัน อาจมีลูกเสือได้ทั้งสองชนิดคือเสือดาวและเสือดำ โดยที่เสือดำจะมีสีขนปกคลุมตามร่างกายด้วยสีดำ ซึ่งมีลายจุดเช่นเดียวกับเสือดาว เพียงแต่กลมกลืนกับสีขนทำให้มองเห็นได้ไม่ชัด

ในประเทศไทยเสือทั้ง 2 ตัว ถูกจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 182 ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 เนื่องจากอยู่ในข่ายเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดทำการล่า หรือมีไว้ในครอบครอง ตามมาตรา 16 ห้ามมิให้ผู้ใดล่า

หรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง และมาตรา 19 ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าสงวน หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา 16 มาตรา 19 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ