ข่าวภูมิภาค คนหาย ประกาศตามหาคน

แม่หลั่งน้ำตา!! ประกาศตามหาลูกชายที่หายไปจากบ้าน 15 ปี

แม่หลั่งน้ำตาประกาศตามหาลูกชาย ที่หายออกจากบ้านไม่ติดต่อกลับมาหาตั้งแต่ปี 2547 เผยหากยังมีชีวิตอยู่ขอให้ติดต่อกลับทางบ้าน วันที่ 30 เมษายน 2562 นางอารีย์ รอดแก้ว อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172…

Home / NEWS / แม่หลั่งน้ำตา!! ประกาศตามหาลูกชายที่หายไปจากบ้าน 15 ปี

แม่หลั่งน้ำตาประกาศตามหาลูกชาย ที่หายออกจากบ้านไม่ติดต่อกลับมาหาตั้งแต่ปี 2547 เผยหากยังมีชีวิตอยู่ขอให้ติดต่อกลับทางบ้าน

วันที่ 30 เมษายน 2562 นางอารีย์ รอดแก้ว อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172 หมู่ 6 ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด พร้อมด้วยลูกสาวอีก 2 คน ชื่อ นางเพ็ญภักตร์ (เอ๋) และนางกิ่งเทียน (ออม) ซึ่งเป็นแม่ พี่สาว และน้องสาวของนายภาณุพงศ์ รอดแก้ว ถ้ายังมีชีวิตอยู่ขณะนี้อายุ 40 ปี ร่วมกันประกาศตามหาบุคคลตามภาพถ่าย คือ นายภาณุพงศ์ รอดแก้ว (ภาพอุ้มหลาน) ที่ออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงงานเทศกาลถือศีลกินเจ ปี 2547 รวมประมาณ 15 ปี จนบัดนี้ไม่เคยติดต่อกลับมาหาแม่ และครอบครัว ขณะที่พ่อคือ นายนิยม รอดแก้ว ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อปี 2561 ทำให้ต้องอยู่คนเดียว โดยมีลูกสาว และหลานๆมานอนเป็นเพื่อนในตอนกลางคืน

โดยนางอารีย์ ซึ่งนำภาพถ่ายลูกชายเพียงคนเดียวมาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกับประกาศตามหาลูกชายทั้งน้ำตา ด้วยความคิดถึง และเป็นห่วงอย่างที่สุดว่า นายภาณุพงศ์ หรืออูม ลูกชายออกจากบ้านไปตั้งแต่ในช่วงเทศกาลกินเจ ปี 2547 หลังจากลูกชายไปอยู่ จ.ภูเก็ต และกลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงเทศกาลกินเจในปีนั้น ซึ่งปกติลูกชายชอบออกจากบ้านไปใช้ชีวิตลำพังในต่างจังหวัดครั้งละนานๆหลายเดือน โดยไม่ค่อยติดต่อกลับบ้าน ทั้ง จ.พัทลุง ,กรุงเทพ,จ.ภูเก็ต ,จ.เพชรบูรณ์ แต่ละครั้งผ่านไปนานหลายเดือน ก็จะโทรศัพท์กลับมาหาสักครั้ง

และบางครั้งครอบครัวทราบจากคนที่รู้จักว่าลูกชายไปทำงานอยู่จังหวัดอะไร ก็จะไปตามให้กลับบ้าน แต่เมื่อกลับมาแล้ว หากคิดจะไปก็ไปอีก ทั้งนี้ หลังสุดในปี 2547 ไปอยู่ จ.ภูเก็ตได้นานประมาณ 5 เดือน ก็โทรศัพท์กลับมาที่บ้าน และกลับมาในช่วงเทศกาลกินเจปีเดียวกัน โดยอยู่บ้านได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ต่อมาวันหนึ่งแม่บอกให้ขับ จยย.ออกไปซื้อของให้ในตลาด อ.ห้วยยอด

เมื่อลูกชายออกไปปรากฏว่านำรถจยย.ไปจอดไว้ที่ สภ.ห้วยยอด ซึ่งน้าเขยเป็นตำรวจ จากนั้นตัวเองก็หายไป จนบัดนี้ไม่เคยติดต่อกลับบ้านมาหาแม่ และครอบครัวอีกเลย ทำให้ครอบครัว โดยเฉพาะแม่ต้องนอนร้องไห้ด้วยความคิดถึง และเป็นห่วง จนขณะนี้มีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งโรคซึมเศร้า ต้องกินยาจิตเวช สาเหตุเพราะเคยประสบอุบัติเหตุขับรถชนคนตาย และคิดถึงลูกชายอย่างมาก และหลังจากสามี (พ่อของนายภาณุพงศ์เสีย) ก็ได้โรคใหม่มาเพิ่มคือ โรคเบาหวาน และโรคความดัน

นายอารีย์ กล่าวว่า แม่เชื่อว่าลูกชายยังมีชีวิตอยู่ วอนทั้งน้ำตา หากเห็นข่าวก็ขอให้ติดต่อกลับมาหาด้วย โดยแม่บอกว่า ตอนนี้อยากรู้ว่าลูกอยู่ที่ไหน ปลอดภัย หรือยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ถ้ายังมีชีวิตอยู่แม้จะบอกว่าไม่อยากกลับมาอยู่บ้านก็ไม่เป็นไร แม่ก็จะไม่ขอบังคับ แต่ขอให้ติดต่อกลับเท่านั้น อยากบอกให้ลูกรู้ว่า แม่คิดถึงมาก ถ้าหากว่าอยู่ที่ไหน ก็ให้ติดต่อกลับบ้านหรือว่ากลับมาบ้านให้แม่เห็นหน้าก่อนก็ได้แล้วค่อยกลับไป ถ้าไม่อยากอยู่กับแม่ก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้รู้ว่าแม่อยากพบหน้า แม่คิดถึง ตอนนี้พ่อก็เสียชีวิตแล้ว

โดยลูกชายออกจากบ้านไปขณะอายุประมาณ 25 ปี ถ้ายังมีชีวิตอยู่ขณะนี้จะอายุได้ 40 ปี ที่ผ่านมาเขาชอบออกจากบ้านไปใช้ชีวิตตามลำพัง เป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่บอกว่าไปอยู่ไหน ทำงานอะไร เขาเป็นคนขี้น้อยใจ แม่อยากบอกให้เขารู้ว่า ที่เขาน้อยใจนั้นความจริงแล้วแม่รักลูกทุกคน ตอนนี้จะโทรศัพท์มาหาแม่ก็ได้ เบอร์แม่ 083 – 3944421 ส่วนเบอร์โทรศัพท์น้องออม (น้องสาวของนายภาณุพงศ์) คือ เบอร์ 084 – 8379735

ซึ่ง ตนเองไม่สามารถจะคาดเดาได้ว่าลูกชายไปอยู่ที่ไหน นอกจากนั้น ครั้งหนึ่ง เขาเคยให้แม่ไปสู่ขอผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ อ.บ้านไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งผู้หญิงคนดังกล่าวมีลูกติด 2 คน และแม่ก็ไม่รู้จักเขา ไม่รู้จักครอบครัวเขา ครั้งหนึ่งแม่เคยไปที่บ้านของผู้หญิงคนนั้น เพื่อไปขอร้องให้ลูกชายกลับมาบวชก่อน หากจะไปสู่ขอแม่ก็จะไปสู่ขอให้ จึงเข้าที่ อ.บ้านไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ที่นั่นเพียงครั้งเดียว และเป็นเวลากลางคืน แม่จำเส้นทางไปไม่ได้ แม่ไม่รู้จักชื่อ ใจหนึ่งแม่ก็คิดว่าลูกชายอาจไปอยู่ที่นั่นก็ได้ ขอให้ลูกติดต่อกลับมาหาแม่สักครั้ง

ถ้ามีคนที่รู้จักลูกชายลักษณะตามภาพ หรือคนที่อยู่ใกล้ๆเขา ถ้าพบเขา หรือเห็นข่าวขอให้โทรศัพท์มาแจ้งแม่ด้วย หรือถ้าเขาไม่มีเงินให้เหมารถมา แม่จะจ่ายค่ารถให้เอง หรือถ้าใครที่อยู่ใกล้ให้เขายืมเงินมา แม่ก็จะคืนให้เอง ขอแค่ให้เขากลับมาหาแม่ หรือติดต่อมาเท่านั้น ทางครอบครัวเองก็พร้อมจะไปหา

ทั้งนี้ วอนขอประชาชนที่เห็นภาพข่าว บุคคลตามภาพ หากพบเจอช่วยติดต่อทางคุณยายอารีย์ด้วย ด้วยหัวอกของคนเป็นแม่ เป็นห่วงลูกชายเหลือเกิน กินไม่ได้นอนไม่หลับ พยายามทำใจว่าจะไม่คิดมาก เพราะไม่อยากให้ลูกๆที่อยู่เป็นห่วงตน แต่ก็ยอมรับว่าทำใจไม่ได้ หากหวนคิดถึงก็จะต้องไห้ตลอดเวลา ไม่ทราบลูกชายเป็นตายร้ายดีอย่างไร