ธนาธร-ปิยบุตร ลั่น! เตรียมฟ้อง 7 กกต. มาตรา 157 ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ เชื่อไม่ได้มีมูลเหตุจูงใจเรื่องกฎหมายและความเป็นธรรม แต่เป็นความจูงใจทางการเมือง
วันนี้ 30 เม.ย. 62 ที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ภายหลังจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้นำเอกสารทั้งหมด 26 รายการเข้าชี้แจงต่อ กกต. กรณีมีมติแจ้งข้อหาว่าอาจเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรณีถือหุ้นบริษัทสื่อ วี-ลัค มีเดีย โดยมีมวลชนที่มาปักหลักรอได้ส่งเสียงตะโกน “ธนาธร สู้ สู้” ให้กำลังใจกันอย่างคึกคัก
ทั้งนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ได้เข้าชี้แจงกับ กกต. ว่าตนเองทำผิดส่วนใด แต่กลับไม่มีใครสามารถตอบได้ นอกจากนี้ยังมองว่าการตั้งข้อกล่าวหานั้นไม่ได้เปิดโอกาสให้ชี้แจง มีเพียงเอกสารส่งไปยังที่บ้านของนางสมพร จึงรุ่งเรื่องกิจ มารดาของนายธนาธร เมื่อวันที่22 เมษายน เวลา 13.45 น. และให้มาชี้แจงในเวลา 10.30 น.ของวันเดียวกัน
จากนั้นวันที่ 23 เมษายนได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายธนาธรทันที ซึ่งมองว่าไม่เป็นธรรม กกต. เชื่อตามผู้ร้องที่นำเอาข้อความจากสำนักข่าวแห่งหนึ่งมาเป็นหลักฐานในการยื่นเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าหลายอย่างระบุไม่ชัดเจน เช่น รายละเอียดเรื่อง สําเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือ บอจ.5 ที่ไม่ระบุวันที่ มีเพียงการระบุว่าตรวจสอบแล้วว่ามีชื่อนายธนาธรเป็นผู้ถือหุ้น ซึ่งตามหลักการกฎหมาย บอจ.5 ไม่ใช่เอกสารหลักฐานว่าได้มีการโอนหุ้นไปแล้วเมื่อไหร
นายธนาธร กล่าวอีกว่า หลังหมดอำนาจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะเตรียมดำเนินคดีกับ กกต. ในข้อหาตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นอกจากนี้หากใครทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหรือละเมิดสิทธิ์ก็จะขอสงวนสิทธิ์ดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน
ทั้งนี้นับตั้งแต่ก่อตั้งพรรคมา 1 ปีจนถึงขณะนี้ ตนเองกับสมาชิกพรรคอนาคตใหม่มีคดีความทั้งหมด 16 คดี แทนที่จะเอาเวลามาปกป้องผลประโยชน์ให้กับประชาชน แต่ต้องมาคอยแก้ต่างในคดี ซึ่งเป็นคดีทางการเมืองและเป็นคดีที่ไม่เป็นธรรม