จากกรณีที่ น.ส.วราภรณ์ ภูแข่งหมอก อายุ 30 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ใน จ.นนทบุรี เข้าร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่า ด.ช.ศุภชัยดิ์ ศรีรักษา หรือ น้องที ลูกชายวัย 9 ขวบ นักเรียนชั้นป.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้หายตัวไปตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ได้รายงานมายัง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่า ขณะนี้มีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสของ “น้องที” ว่ามาอยู่กับพระสงฆ์ ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปรับตัวมา ที่ สภ.บางบัวทอง
โดย นางปวีณา ได้พา น.ส.วราภรณ์ และครอบครัวเดินทางไปที่สภ.บางบัวทอง เพื่อให้ได้พบกับ “น้องที” หลังจากถูกหลอกหายตัวไปนานร่วม 5 วัน พร้อมขอบคุณพลเมืองดี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งนี้ขอฝากไปยังพ่อแม่และผู้ปกครองทุกคนให้สอดส่องดูแลลูกหลานให้ดีเพราะภัยสังคมมีอยู่ทุกรูปแบบ
เบื้องต้น น้องที บอกว่า เด็กชายแตงโม และเณรแบงก์มาชักชวนไปเที่ยวที่วัด จ.สุพรรณบุรี ตอนเช้าเด็กชายแตงโม และเณรแบงก์ก็จะออกไปบิณฑบาตร ตนก็เดินตามไปเป็นเหมือนเด็กวัด จะมีรายได้วันละ 200-400 บาท ระหว่างที่อยู่ที่วัดและไปบิณฑบาตเด็กชายแตงโม จะสวมจีวรตลอด แต่เวลาออกไปเที่ยวเล่นจะสวมชุดไปรเวท ทั้ง เณรแบงก์ เด็กชายแตงโม และตนเองกินอาหารกันครบ 3 มื้อ และตั้งแต่ที่ไปกับเณรแบงก์และเด็กชายแตงโม ทั้ง 2 คนจะไม่ยอมให้ตนติดต่อพ่อกับแม่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ดำเนินคดีกับ นายแบงค์ อายุ 23 ปี ชายที่แต่งกายคล้ายพระที่ล่อลวงน้องทีไป ในข้อหา พรากเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา และจากการตรวจสอบประวัติ นายแบงก์ พบว่า เคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว 3 ครั้ง ในคดีลักทรัพย์ พื้นที่ สภ.บางบัวทอง ล่าสุดเพิ่งพ้นโทษมาช่วงเดือน ธ.ค.61 และมารับจ้างบวชหน้าไฟ แต่ไม่ยอมสึกจนกระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
ที่มา policenews