ทวงเงิน ใช้ไม้แทงอวัยวะเพศ

เด็กหญิง ป.2 อ้างถูกเพื่อนทวงเงิน 15 บาท แต่ไม่มีให้ ก่อนถูกใช้ไม้แทงอวัยวะเพศเลือดไหล

วันนี้ (1 มี.ค. 62) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากรับแจ้งจากหญิงผู้เป็นแม่คนหนึ่งว่า ลูกสาว อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง…

Home / NEWS / เด็กหญิง ป.2 อ้างถูกเพื่อนทวงเงิน 15 บาท แต่ไม่มีให้ ก่อนถูกใช้ไม้แทงอวัยวะเพศเลือดไหล

วันนี้ (1 มี.ค. 62) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากรับแจ้งจากหญิงผู้เป็นแม่คนหนึ่งว่า ลูกสาว อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ถูกเพื่อนนักเรียนชายในห้องเดียวกัน 2 คนรุมทำร้ายร่างกายบาดเจ็บไม่กล้าไปโรงเรียน ทางครูและโรงเรียนไม่มาดูแลเยียวยา

ทั้งนี้ นางสาวแจ๋ว (นามสมมติ) เล่าว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา ลูกสาวอายุ 8 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2 มีเพื่อนนักเรียนของลูกสาวที่เป็นผู้ชาย 2 คน เข้ามาทวงเงิน 15 บาทจากลูกสาว ซึ่งลูกสาวบอกไม่มี ฝ่ายชายจึงได้ทำร้ายร่างกายลูกสาวด้วยการชกเข้าที่ใบหน้า 2 ครั้ง ชกท้องอีก 2 ครั้ง

จากนั้นสั่งให้ลูกสาวถอดกางเกงในโดยขู่ว่าถ้าไม่ถอดจะตี ลูกสาวกลัวจึงได้ถอดกางเกงในออก เพื่อนชายคนหนึ่งได้ใช้ใม้แทงเข้าที่อวัยวะเพศจนมีเลือดไหลออกมา เพื่อนชายก็ขู่อีกว่าห้ามนำเรื่องไปบอกครู เพื่อนหญิงของลูกเห็นว่ามีเลือดไหลออกใต้กระโปรงลูกจึงแจ้งครูประจำชั้นซึ่งเป็นครูผู้ชาย ครูประจำชั้นก็พูดว่าอะไร เด็ก ป.2 ตัวแค่นี้มีประจำเดือนแล้วเหรอ แต่ไม่ได้ไปดูเด็ก ซึ่งตนก็เข้าใจว่าครูผู้ชายคงจะไม่กล้าไปดูใต้กระโปรงเด็กผู้หญิง แต่ทำใมไม่แจ้งครูประจำชั้นอื่นที่เป็นผู้หญิงมาดูลูกสาวตน

ลูกต้องอยู่ในห้องเรียนจนถึงสี่โมงเย็น กระทั่งป้าของลูกสาวไปรับซึ่งก็เห็นมีคนมามุงดูลูกสาว ป้าจึงเข้าไปสอบถามจนรู้เรื่อง ตนติดใจที่ทางโรงเรียนขาดการดูแลเอาใจใส่นักเรียนเท่าที่ควร หลังเกิดเหตุแล้วทางโรงเรียนได้แต่เพียงพูดว่า ขอโทษและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นางสาวแจ๋ว เล่าต่อว่า หลังจากที่ป้าของลูกทราบเรื่องจึงได้รีบพาหลานกลับบ้านพร้อมกับโทรศัพท์แจ้งตน ซึ่งตนยังอยู่ที่ทำงานป้าของลูกบอกให้ตนกลับมาบ้านด่วน เมื่อมาถึงบ้านก็ได้พาลูกสาวไปโรงพยาบาล ให้หมอตรวจร่างกายและตรวจอวัยวะเพศ หลังจากออกจากโรงพยาบาล ตนก็ได้พาลูกสาวเข้าไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ หลังเกิดเหตุ วันรุ่งขึ้น ตนได้ไปที่โรงเรียนของลูกสาว ซึ่งลูกสาวไม่กล้าไปโรงเรียน เพราะกลัวและเกรงจะถูกทำร้ายอีก

ที่โรงเรียน ครูได้แจ้งให้ผู้ปกครองของนักเรียนชาย 2 คน ที่ก่อเหตุทำร้ายลูกสาวมาคุยปรึกษาหารือกัน ซึ่งในการเจรจากัน ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุได้ตกลงยินยอมจ่ายค่าเยียวยา ค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นเป็นเงิน 20,000 บาท ตนก็ตกลงยินยอมที่จะรับเงินจำนวนนี้โดยไม่ได้เรียกร้องอะไรมากไปกว่านี้ เพราะเงินจำนวนนี้เป็นการเยียวยาปลอบขวัญในเบื้องต้น

หลังเกิดเหตุ ครูที่โรงเรียนและผู้ปกครองของนักเรียนคู่กรณีไม่เคยมาเยี่ยมมาดูอาการของลูกสาวว่าเป็นอย่างไร หรืออาจจะคิดว่า ตกลงจ่ายเงินเยียวยาแล้วก็ไม่ต้องมาดูแลสอบถามอะไรอีกหรืออย่างไร ซึ่งเงินที่ตกลงจะจ่ายมานั้นเป็นการเยียวยาและช่วยค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น แต่ถ้าผลตรวจของแพทย์ออกมาพบว่า ลูกสาวมีบาดแผลฉกรรจ์ หรือเกิดการติดเชื้อจากการถูกกระทำในครั้งนี้ก็ต้องมาเจรจาเรียกร้องกันอีกครั้งหนึ่ง” นางสาวแจ๋ว กล่าว

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ นายทองจันทร์ บุตรแต้ม รองผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุ ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนคือนางสุจิตรา จูมสีมา ไปราชการที่ต่างจังหวัด เหตุที่เกิดกับเด็กนักเรียน ป.2 ในวันนั้น เป็นการทะเลาะกันธรรมดาของเด็ก โดยมีการทวงเงินกัน หรือฝ่ายหนึ่งคือฝ่ายเด็กชายกล่าวหาว่าเด็กผู้หญิงขโมยเงิน แต่ทางเด็กหญิงปฏิเสธ จึงมีการท้าทายกัน นัดไปตีกันที่ห้องน้ำ ซึ่งอยู่ด้านหลังอาคารเรียน และเด็กหญิงถูกทำร้ายดังกล่าว และไม่ได้มีบาดแผลมากมายจนเลือดไหล ตนไม่เห็นมีเลือด วันเกิดเหตุ ต้องยอมรับว่า ไม่มีครูอยู่ดูแลเด็กทางด้านหลังอาคารเรียน เนื่องจากบุคลากรเรามีน้อย ครูหลายคนไปอบรม ซึ่งตอนนี้ทางผู้ปกครองของทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาตกลงจ่ายเงินเยียวยากันแล้ว และจะจ่ายเงินดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม ที่จะถึงนี้ ต่อไปทางโรงเรียนจะระมัดระวังให้มากกว่านี้ไม่ให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก

ทางด้านคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พันตำรวจเอก ชยากร เทศะบำรุง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า เมื่อค่ำวันที่ 25กุมภาพันธ์ 2562 มีคุณแม่ได้พาลูกสาววัย 8 ขวบมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนจริง ทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งเหตุไว้แล้ว แต่ยังต้องรอผลตรวจของแพทย์ที่โรงพยาบาลก่อน ซึ่งอย่างเร็วสุดก็คงเป็นสัปดาห์หน้า หลังจากได้รับผลตรวจจากโรงพยาบาลแล้ว ก็จะได้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพื่อดำเนินการต่อไป