ประเด็นน่าสนใจ
- ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่
- ขอประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนัก-หนักมาก ให้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
- เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน)ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำประเทศจีนในวันนี้(1 ส.ค. 2563)
- ทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
พยากรณ์อากาศวันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ
เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก
- อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย ขอนแก่น หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมุกดาหาร
- อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 28-35 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี
- อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
- อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
- อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
อุตุฯ ออกประกาศ เตือน “พายุระดับ 2(ดีเปรสชัน) ในบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน
กรมอุตุฯ ได้ออกประกาศ เรื่อง “พายุระดับ 2(ดีเปรสชัน) ในบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน (มีผลกระทบถึง 4 สิงหาคม 2563)” เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดย
เมื่อเวลา 04.00 น. พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 18.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.0 องศาตะวันออก กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คาดว่าจะเคลื่อนตัวจะขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 2-3 สิงหาคม 2563 โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
สำหรับ คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ในช่วงวันที่ 1 – 4 ส.ค. 2563 โดยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
พื้นที่ที่คาดว่าจะได้ผลกระทบ
วันที่ 1 ส.ค.
- ภาคเหนือ
เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย ขอนแก่น อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย
บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม
ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี
ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ - ภาคตะวันออก
นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด - ภาคใต้
ระนอง พังงา ภูเก็ต เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
วันที่ 2 ส.ค.
- ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร และตาก - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย ขอนแก่น อุดรธานี หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ - ภาคกลาง
ราชบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี - ภาคตะวันออก
ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด - ภาคใต้
ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
วันที่ 3 – 4 ส.ค.
- ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร สุโขทัย และตาก - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์ - ภาคกลาง
ราชบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี และสระบุรี - ภาคตะวันออก
ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด - ภาคใต้
ระนอง พังงา ภูเก็ต เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 05.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.00 น.