ประเด็นน่าสนใจ
- กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลราชวิถี เผยการฉีดสารเพิ่มขนาดอวัยวะเพศยังเป็นที่นิยมในชายไทย
- เตือนอันตรายของเหลวที่ฉีดเข้าไปคือสิ่งแปลกปลอม ส่งผลให้อวัยวะเพศมีรูปร่างบิดเบี้ยว
- หากสารแปลกปลอมที่ฉีดเข้าไปไม่สะอาด อาจเกิดการติดเชื้อรุนแรงจนถึงขั้นต้องตัดอวัยวะเพศทิ้ง
วันนี้ (31 ก.ค.63) นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระแสการโฆษณาชวนเชื่อทางสื่อออนไลน์กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาว ที่ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับตนเองในเรื่องของเพศสภาพ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดตามมา
ในแต่ละปีจะมีกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่มขนาดอวัยวะเพศโดยการฉีดสารแปลกปลอมเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก ซึ่งในหลักฐานยืนยันทางการแพทย์ชายไทยจะมีขนาดความยาวของอวัยวะเพศอยู่ที่ 4 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่ได้สัดส่วนอยู่แล้ว
หากคิดว่าขนาดอวัยวะเพศของท่านมีความผิดปกติ ควรมาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาแนวทางแก้ไขที่ตรงจุด และหันมาดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการรับประทานอาหารให้ครบหมู่ เน้นผักและผลไม้ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ กระตุ้นความรู้สึกทางอารมณ์ด้วยการทำจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียด จะสามารถช่วยให้มีกิจกรรมทางเพศได้อย่างมีประสิทธิภาพ นายแพทย์ณรงค์ กล่าว
นายแพทย์สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ผู้ชายส่วนหนึ่งเป็นกังวลเกี่ยวกับลักษณะและขนาดของอวัยวะเพศตนเองเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของความเครียดทางเพศของผู้ชาย และนำไปสู่อาการที่อวัยวะเพศหย่อนประสิทธิภาพในการแข็งตัว ผู้ที่ไปฉีดหรือใส่สารแปลกปลอมเข้าไปในอวัยวะเพศอาจเกิดจากต้องการสร้างความมั่นใจให้ตนเอง
โดยมีทัศนคติหรือความเข้าใจที่ผิดว่า การให้อวัยวะเพศมีขนาดใหญ่ขึ้นจะทำให้มีสมรรถภาพทางเพศดี หรือมีความตื่นเต้นเร้าใจในการมีเพศสัมพันธ์ การฉีดสารแปลกปลอมต่างๆ เพื่อให้อวัยวะเพศมีรูปร่างคล้ายมะระหรือลูกยอ เพื่อเพิ่มขนาดอวัยวะเพศที่กำลังเป็นกระแสในกลุ่มชายไทยอยู่ในขณะนี้ อาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้โดยอันตรายในระยะแรกหากสารที่ฉีดเข้าไปไม่สะอาดจะมีการติดเชื้อรุนแรงจนอวัยวะเพศอักเสบเป็นหนอง นายแพทย์สมเกียรติ กล่าว
อันตรายในระยะยาว
- ทำให้อวัยวะเพศมีก้อนแข็งผิดรูป
- มีความลำบากหรือมีความเจ็บปวดเวลามีเพศสัมพันธ์ อาจมีแผลเรื้อรัง
- บางรายที่ปล่อยไว้นานจนกลายเป็นมะเร็งได้
ผู้ที่ฉีดสารแปลกปลอมเข้าอวัยวะเพศนอกจากเสียเงินในการฉีดแล้วเวลามารับการรักษาในโรงพยาบาลจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาเอง เนื่องจากเป็นการรักษาเพื่อผ่าตัดตบแต่งแก้ไขอวัยวะเพศซึ่งสิทธิการรักษาไม่ครอบคลุม
การรักษา
- การผ่าตัดตกแต่งแก้ไขจะพยายามทำให้อวัยวะเพศกลับมาใกล้เคียงเดิมให้มากที่สุด
- ตัดเอาก้อนและผิวหนังองคชาติที่ฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปออกและใช้ผิวหนังจากถุงอัณฑะมาคลุมองคชาติแทน
กรณีที่ฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปมากจนไม่สามารถใช้ผิวหนังจากถุงอัณฑะได้จะต้องใช้ผิวหนังส่วนอื่นของร่างกายมาคลุมองคชาติแทน ซึ่งจะทำให้การทำงานขององคชาติไม่เหมือนเดิม ส่วนผู้ที่มีการติดเชื้อรุนแรงหรือมีแผลเรื้อรังจนลุกลามเป็นมะเร็งอวัยวะเพศ การรักษาอาจถึงขั้นต้องตัดอวัยวะเพศทิ้งในที่สุด