ต่างด้าวข่มขืนยายวัย 72 ปี ทิ้งศพในสวนปาล์ม อ้างเมาไม่รู้ตัว สามีผู้ตายเผย อยากให้ผู้ต้องหาได้รับโทษถึงประหาร
วันที่ 4 มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง วัดสว่างมนัส หมู่ 3 ตำบลปากน้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ หญิงชราอายุ 72 ปี ถูกคนร้ายข่มขืนฆ่า และทิ้งศพไว้ในสวนปาล์ม หลังบ้านเช่าหลังหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลบางน้ำจืด อ.เมือง จ.ชุมพร
ทั้งนี้ บรรยากาศของงานศพเป็นไปด้วยความเงียบเหงามีญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านกว่า 30 คนมาช่วยงานและสมทบทุนกันออกค่าใช้จ่ายในงานศพ เนื่องจากครอบครัวของผู้ตายมีฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำไม่มีเงินเก็บออม โดยสามีมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างส่วนลูกชายเป็นลูกเรือประมง นอกจากนั้น ภาพถ่ายหน้าศพก็ยังมีเพียงขาตั้ง เนื่องจากทางเจ้าภาพยังไม่มีเงินที่จะไปเอาภาพถ่ายหน้าศพ จึงทำให้ต้องตั้งโรงคู่กับขาตั้งภาพเท่านั้น ส่วนโลงศพก็ได้รับการให้ยืมจากเจ้าของโลงแอร์
สามีผู้ตาย อายุ 72 ปี กล่าวว่าตนเพิ่งจะเดินทางกลับมาจาก สภ.ปากน้ำหลังสวน เนื่องจากตำรวจเรียกตัวไปสอบปากคำ และได้ดูตัวผู้ต้องหาที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมมาได้ตั้งแต่ช่วงค่ำของเมื่อวานที่ผ่านมา เป็นแรงงานต่างด้าวชาวมอญ ซึ่งทำงานอยู่ในสวนปาล์มใกล้กับบ้านเช่าที่ตนอาศัยอยู่
ปกติก็เคยเห็นและพูดคุยกันบ้างกับฆาตกร และเพิ่งจะเคยมาบ้านตนครั้งแรกแล้วก่อเหตุดังกล่าวขึ้น จากการสอบถามตำรวจทราบว่าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ทำไปเพราะเมาเหล้าและไม่รู้เรื่อง อย่างไรก็ตามตนยังทำใจไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น อยากให้ผู้ต้องหาได้รับโทษถึงประหาร หรือจำคุกตลอดชีวิต เพราะผู้ต้องหามีความโหดเหี้ยมมาก
เพื่อนบ้านผู้เสียชีวิตท่านหนึ่งกล่าวว่า ตนรู้จักกับผู้ตายมานานเป็นคนอัธยาศัยดีไม่เคยมีปัญหากับใคร ชีวิตของยายน่าสงสารเป็นครอบครัวที่ยากจน หาเช้ากินค่ำ ต่อสู้ชีวิตมาตลอดชนิดปากกันตีนถีบ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับยาย ส่วนงานศพก็มีบรรดาเพื่อนบ้านช่วยกันสมทบทุนค่าใช้จ่ายคนละเล็กละน้อย
ลูกสาวของผู้ตายเปิดเผยว่า ยังทำใจไม่ได้ ที่บ้านมีฐานะยากจนมากพ่อเป็นเพียงคนขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างเท่านั้น วันนี้ได้หยิบยืมเงินของเพื่อนบ้านมาเพื่อบำเพ็ญกุศลศพให้แม่ และตั้งใจจะทำศพเป็นเวลา 5 วัน ในส่วนของคดีปล่อยเป็นหน้าที่ของพ่อที่จะประสานงานกับตำรวจ ซึ่งทราบว่าสามารถจับตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชาย ชาวมอญได้ 1 คน เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ข้างๆ บ้าน และรู้จักกับแม่และลูกชายของแม่หรือน้องชายเป็นอย่างดี ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุ ขอให้ตำรวจได้ดำเนินคดีไปตามกฎหมาย หลังเกิดเหตุชาวบ้านในบริเวณบ้านของแม่ มีความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ไม่กล้าที่จะออกจากบ้านหลังพลบค่ำ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีความถี่ในการเข้ามาตรวจตราบริเวณบ้านที่เกิดเหตุบ่อยๆ นอกจากนั้นขอให้ควบคุมแรงงานต่างด้าว ซึ่งมักจะดื่มสุราแล้วก่อเหตุทะเลาะเบาะแว้งรวมถึงก่อเหตุร้ายอยู่เป็นประจำ
ด้านเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชุมพร ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดชุมพร ในฐานะยุติธรรมจังหวัดให้เจ้าหน้าที่เดินทางมาเยี่ยมเยียนครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายพร้อม ทั้งสอบถามรายละเอียดและแจ้งสิทธิที่ครอบครัวของผู้เสียหายจะได้รับ จากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งจะได้นำไปเสนอเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือลำดับต่อไป
ส่วนความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.สัญญา พาตินธุ ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน เปิดเผยว่าหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวได้ 2 คน เป็นพี่น้องกัน คือนายซู หรือตะวัน อายุ 37 ปี และนายมินโทน 20 ปี เป็นชาวมอญสัญชาติเมียนมา
จากการสอบสวนนายตะวันรับสารภาพเป็นคนข่มขืนฆ่ายายสมวันสาเหตุมาจากเมาเหล้า จึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ส่วนข้อหาข่มขืนต้องรอผลการพิสูจน์จากแพทย์ และนิติเวชก่อนจึงจะแจ้งข้อกล่าวหาได้ นายมินโทนน้องชายไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีที่พี่ชายก่อขึ้น แต่จากผลการตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วงมีสารเสพติด จึงแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ