ทราบผลกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับผลการทดสอบ 4G ที่เร็วแรง และมีคุณภาพที่สุดในปี 2018 จาก nPerf พบว่า ทรูมูฟ เอช คว้ารางวัล เครือข่าย 4G ที่แรงที่สุด ในประเทศไทยประจำปี 2018 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันจาก nPerf ตั้งแต่ปี 2016-2018 โดยทรูมูฟ เอช สามารถทำคะแนนรวมได้สูงที่สุด สำหรับคุณภาพการเชื่อมต่อในทุกด้าน ได้แก่ การวัดผลความเร็ว (Speedtest) การเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ (Browsing Test) และการสตรีมมิ่ง (VDO Streaming) โดยมีคะแนนรวมสูงสุด 50,155 nPoints ตอกย้ำความเป็นผู้นำ 4G ที่แท้จริงของทรูมูฟ เอช ซึ่งรางวัลนี้สามารถการันตีเรื่องความแรง ความเสถียร และครอบคลุมที่สุดได้เป็นอย่างดี
*nPerf เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ทดสอบความเร็วของเครือข่ายแบบรอบด้านระดับโลก โดยทดสอบความเร็วและคุณภาพการเชื่อมต่อด้วย Mobile Internet ทั้ง 2/3/4/4.5G ของประเทศไทยประจำปี 2018 ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2018 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2018 โดยมีผลการทดสอบที่เก็บได้ทั้งหมด 1,197,530 ครั้ง
นายอดิศักดิ์ ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านปฏิบัติการโครงข่าย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ ทรูมูฟ เอช ได้รับรางวัล เครือข่าย 4G ที่แรงที่สุด ในประเทศไทยประจำปี 2018 3 ปีต่อเนื่องจาก nPerf บริการทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่ทั่วโลกให้การยอมรับ โดยผลการทดสอบสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของเครือข่ายโดยรวมที่ผู้ใช้เชื่อมต่อตลอดทั้งปี 2018 พบว่าทรูมูฟ เอช มีคะแนนที่ห่างกว่าผู้ให้บริการรายอื่นอย่างเห็นได้ชัด สำหรับคุณภาพการเชื่อมต่อในทุกด้าน ได้แก่ การวัดผลความเร็ว (Speedtest) การเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ (Browsing Test) และการสตรีมมิ่ง (VDO Streaming) ไม่ว่าจะเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีใดๆ ก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทรูมูฟ เอช ในการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารของไทยให้มีคุณภาพทัดเทียมนานาประเทศมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์การสื่อสารที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าชาวไทย
โดยเทคโนโลยีที่ทรูมูฟ เอช นำมาใช้งานในปัจจุบัน อาทิ การขยายเครือข่าย 4G+ แบบ 3CA หรือการรวมคลื่น 900/1800/2100 MHz เข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้ได้ความเร็วสูงระดับ 300 Mbps และยังได้ขยายสัญญาณเพิ่มเติมด้วยการอัปเกรดเครือข่ายให้รองรับการส่งสัญญาณแบบ 4×4 MIMO ตลอดจนขยายเพิ่มเป็น 8×8 MIMO ให้ครอบคลุมทุกจังหวัด รวมถึงการเปิดให้บริการเทคโนโลยีมาตรฐานโลก FDD Massive MIMO 32T32R เป็นรายแรกของโลก โดยมีจุดเด่นที่การกระจายช่องสัญญาณให้สามารถรองรับการรับส่งข้อมูลของผู้ใช้งานแต่ละคนได้ จึงเสมือนมีช่องสัญญาณส่วนตัว ช่วยเพิ่ม capacity ถึง 4 เท่า ทำให้รองรับจำนวนผู้ใช้งานได้มากขึ้น โดยเปิดให้บริการแล้วในบริเวณที่มีการใช้งานหนาแน่น และล่าสุดได้นำเทคโนโลยี 5G มาให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ 5G บนสภาพแวดล้อมจริงอีกด้วย”
ทั้งนี้ nPerf เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ทดสอบความเร็วของเครือข่ายแบบรอบด้านระดับโลกจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งให้บริการมาตั้งแต่ปี 2003 โดยทดสอบคุณภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนมือถือทั้งระบบปฎิบัติการ iOS, Android และ Windows Phone ได้ประกาศผลการทดสอบความเร็วและคุณภาพการเชื่อมต่อด้วย Mobile Internet ทั้ง 2/3/4/4.5G ของประเทศไทย ในปี 2018 ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2018 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2018 โดยมีผลการทดสอบที่เก็บได้ทั้งหมด 1,197,530 ครั้ง ทั้งนี้ nPerf scores มีการคำนวณเป็นคะแนน nPoints คือการให้คะแนนโดยรวมสำหรับคุณภาพการเชื่อมต่อในทุกด้าน ได้แก่การวัดผลความเร็ว (Speedtest) การเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ (Browsing Test) และการสตรีมมิ่ง (VDO Streaming) ไม่ว่าจะเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีใดๆ ก็ตาม nPoints สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของเครือข่ายโดยรวมที่ผู้ใช้เชื่อมต่อตลอดทั้งปี 2018 จะเห็นได้ว่า ทรูมูฟ เอชทำคะแนนได้สูงที่สุด โดยมีคะแนนที่ห่างกว่าผู้ให้บริการรายอื่นอย่างเห็นได้ชัด คือ 50,155 nPoints
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.nperf.com/en/awards/th/2018/mobile/thailand/