อนาคตใหม่ แจง 3 ประเด็นร้อน ยันมั่นใจ ไม่เกรงกลัวการสาดโคลน พร้อมขอให้ทั้งสื่อและประชาชนจับตาดูสื่อที่ไม่มีจรรยาบรรณ
เมื่อเวลา 10.00น. พรรคอนาคตใหม่ จัดแถลงข่าว ณ อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ ชั้น 7 โดยนางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันสื่อมวลชนแห่งชาติ อันดับแรกตนและสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ทุกคน ต้องขอชื่นชน และเป็นกำลังใจให้สื่อมวลชนทุกสำนัก ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ นำเสนอข่าวอย่างเสรีและเป็นธรรม และทำงานอย่างแข็งขัน ในช่วงเวลาอันเข้นข้นนี้ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 20 วัน จะเข้าสู่การเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมที่ทุกคนรอคอย
สำหรับวันนี้พรรคอนาคตใหม่ มี 3 ประเด็นที่ขอชี้แจ้งต่อสื่อมวลชน 1. กรณี พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรค ถูกดำเนินคดีแชร์ข่าวปลอมบนบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเนื้อข่าวที่แชร์ระบุว่าพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ “เบิกงบกาแฟแก้วละ 12,000 บาท” ซึ่งเมื่อ พล.ท พงศกร โพสต์ออกไปไม่กี่นาทีจึงได้ทราบภายหลังว่าเป็นเพจข่าวปลอม และได้ทำการลบในทันที รวมถึงโพสต์แสดงความขอโทษที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดเสียก่อน
ซึ่งการกระทำดังกล่าวนำไปสู่การเข้าแจ้งความ โดยมี พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับมอบอำนาจจาก คสช.เข้าแจ้งความดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องกับการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จนทำให้เกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงของประเทศ และก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชนตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
โดย ณ ขณะนี้เป็นเพียงหมายเรียกเท่านั้น ยังไม่มีการจับกุมใดๆ ซึ่งทาง พล.ท.พงศกร ยืนยันว่าตนมิได้มีเจตนาบิดเบือนใดๆ เมื่อทราบว่าเป็นข่าวปลอมก็รีบทำการลบและโพสต์แสดงความขอโทษทันที ทั้งนี้ พล.ท.พงศกรจะไปรายงานตัวและดำเนินไปตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไปในวันที่ 11 มีนาคมนี้
2. ปัจจุบันเห็นได้ชัดว่ามีกระบวนการปล่อยข่าวเท็จใส่ร้ายป้ายสีพรรคอนาคตใหม่ไม่เว้นวัน แต่พรรคอนาคตใหม่มีความมั่นใจและไม่เกรงกลัวการสาดโคลน โดยจะมุ่งมั่นในอุดมการณ์และเดินหน้าลงพื้นที่ต่อไป ผู้ที่กำลังกลัวการสูญเสียอำนาจต่างหากที่กลัวชัยชนะของประชาชนที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 24 มีนาคมนี้ กลัวพรรคอนาคตใหม่จะเป็นตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล และนำประชาธิปไตยกลับคืนสู่ประเทศ
3. กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกกล่าวหาพัวพันกับธุรกิจโรงเลื่อยไม้เถื่อน ทำลายธรรมชาติ และการมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีทุจริตบริษัทปิคนิคแก๊ส ตามที่มีสื่อบางสำนักเปิดประเด็นไว้ ทั้งนี้ในเฟซบุ๊กแฟนเพจของนายธนาธรได้มีการโพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวไว้อย่างละเอียดแล้ว
ขอยืนยันว่านายธนาธรเข้าซื้อหุ้นปิคนิคแก๊สหลังคดีความทุจริตเกิดขึ้นนานเกือบ 10 ปี เป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนผู้ลงทุน และนายธนาธรก็ไม่ได้มีส่วนใดๆ ในการบริหารบริษัท จรกระทั่งได้ขายหุ้นทั้งหมดไปในปี 2560 ส่วนกรณีบริษัทวันโอซีเป็นบริษัทที่นายธนาธรเปิดไว้แต่ไม่ได้ดำเนินกิจการใดๆ ทั้งสิ้น มีสถานะ sleeping company ข่าวที่ออกมาจึงถือเป็นข่าวเท็จที่จงใจทำลายความน่าเชื่อถือของนายธนาธรและพรรค
นายสาวพรรณิการ์ย้ำว่า สื่อมวลชนเป็นเสาหลักของประชาธิปไตย ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งสื่อจำนวนมากซื่อตรงต่ออุดมการณ์ กล้าหาญในการทำหน้าที่ส่งต่อความจริงให้กับประชาชน จัดดีเบตหรือเชิญนักการเมืองมาพูดถึงนโยบายจุดยืนพรรค เพื่อให้ประชาชนมีข้อมูลมากที่สุดสำหรับการตัดสินใจในวันเลือกตั้ง
แต่ยังมีสื่อบางส่วนที่รับใช้เผด็จการ เผยแพร่ข้อมูลเท็จ ข่าวปลอม ทำลายพรรคการเมือง ขอให้ทั้งสื่อมวลชนและประชาชนข่วยกันจับตาดูสื่อที่ไม่มีจรรยาบรรณเหล่านี้ และช่วยกันทำให้สื่อเป็นเสาหลักของประชาธิปไตย ทำงานร่วมกับพรรคการเมืองรับใช้ประชาชน