สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งชี้แจง เรื่องการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และแจงข่าว กกต. ทุ่มงบ 12 ล้านบินดูการเลือกตั้ง ตปท.ไร้ประชุม 1 อาทิตย์
ตามที่ได้มีการปรากฏข่าวว่า “กกต. ทุ่มงบ 12 ล้านบินดูการเลือกตั้ง ตปท.ไร้ประชุม 1 อาทิตย์” นั้น ข่าวที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ล่าสุดทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ออกมาชี้แจงว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยกำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีถิ่นที่อยู่นอกราชอาณาจักร สามารถมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งประกอบกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 109 กำหนดว่า ในการเลือกตั้งทั่วไปอันมิใช่เป็นการเลือกตั้งใหม่ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งมีถิ่นที่อยู่นอกราชอาณาจักรจะขอลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้ง ณ ประเทศที่ตนมีถิ่นที่อยู่ก็ได้
ในการดำเนินการจัดการออกเสียงลงคะแนนนอกราชอาณาจักรนั้น กกต. ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานสนับสนุนในการบริหารจัดการ พร้อมทั้งได้โอนงบประมาณที่ต้องใช้ในการดำเนินการทั้งหมดให้ และกำหนดให้เอกอัครราชทูตเป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการจัดให้มี
การออกเสียงลงคะแนนในห้วงระหว่างวันที่ 4 – 16 มีนาคม 62 โดยกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือเชิญกกต. ไปตรวจติดตามภารกิจดังกล่าวในประเทศที่มีชุมชนคนไทยอยู่หนาแน่นและมีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิมาก ซึ่ง กกต. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การไปปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเป็นอำนาจของ กกต. ในการควบคุม ดูแลการดำเนินการของกระบวนการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรทั้งหมด
เพื่อให้ความมั่นใจว่า การดำเนินการจัดการเลือกตั้งในต่างประเทศจะเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม โดยหากกกต. แต่ละท่านหากพบเห็นการกระทำใดอันอาจเป็นเหตุให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย สามารถใช้อำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการเลือกตั้ง หรือสั่งให้ดำเนินการเลือกตั้งใหม่ ตามมาตรา 224 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 อีกทั้งจะได้นำผลการตรวจติดตามภารกิจมาใช้เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงปัญหา อุปสรรค ของการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในอนาคตต่อไปด้วย
ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561ในระหว่างเวลานับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งใช้บังคับจนถึงวันประกาศผลการเลือกตั้งหากมีความจำ เป็นเร่งด่วนต้องมีการประชุมกกต. ให้มีอำนาจประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยกกต. แต่ละคนอาจอยู่ ณ สถานที่แตกต่างกันได้ ซึ่งในห้วงการเดินทางที่ผ่านมายังไม่มีประเด็นเร่งด่วนที่ กกต. จะต้องมีการประชุมเพื่อพิจารณาวินิจฉัยแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จะไปออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งในต่างประเทศด้วยว่า กฎหมายได้กำหนดห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ตนได้ลงคะแนนแล้ว ซึ่งการกระทำดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ