ประเด็นน่าสนใจ
- วานนี้มีรายงานว่า อัยการสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหา บอส ทายาทตระกูลอยู่วิทยา คดีขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อปี 2555
- รองโฆษกตร. เผยได้รับเรื่องจากอัยการสูงสุดแล้ว ถอนหมายจับในประเทศไทยที่ยังมีอายุความ
- ประสานไปยังตำรวจสากลเพื่อถอนหมายอินเตอร์โพลทั้งหมด
จากกรณี สื่อของสหรัฐอเมริกา รายงานว่า นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทตระกูลอยู่วิทยา หลานของนายเฉลียว อยู่วิทยา ผู้ก่อตั้งบริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดง รอดพ้นคดีต้องสงสัยขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงแก่ความตาย เมื่อปี 2555 แล้ว เมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหา
พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผกก. สน. ทองหล่อ ให้สัมภาษณ์ว่า “เราได้รับทราบจากอัยการถึงการตัดสินใจสุดท้าย เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ว่า จะไม่สั่งฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา เราจึงได้แจ้งไปทางนายวรยุทธแล้ว และยกเลิกหมายจับแล้วเช่นกัน”
ล่าสุด วันนี้ (24 ก.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. เปิดเผยว่าทางเราได้รับเรื่องของคำสั่งเด็ดขาดสั่งไม่ฟ้องจากสำนักงานอัยการสูงสุด ทำให้ต้องถอนหมายจับในประเทศไทยที่ยังมีอายุความ และต้องประสานไปยังตำรวจสากลเพื่อถอนหมายอินเตอร์โพลทั้งหมด เช่นเดียวกับในส่วนของการส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็ต้องถูกยกเลิกเช่นเดียวกัน
สำหรับคดีนี้ทางตำรวจเคยมีความเห็นสั่งฟ้องไปตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว ทางอัยการได้สั่งให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม จนกระทั่งส่งพยานหลักฐานไปตามขั้นตอนที่ร้องขอทั้งหมด และสุดท้ายอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้อง ทางตำรวจก็เห็นพ้องตามที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งมา ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่คดีของ นายวรยุทธ เท่านั้น คดีปกติทั่วไปหากอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง ตำรวจก็ปฏิบัติตามนี้เช่นเดียวกัน
“…คดีนี้ไฮไลท์ คือ เรื่องชนตำรวจตาย มีการสอบเพิ่มเติมหลายประเด็น แต่เมื่อสุดท้ายคืออัยการสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งตำรวจเห็นพ้องตามอัยการ เพราะเป็นไปตามพยานหลักฐาน เรื่องความเห็นของตำรวจ จะเห็นแย้งหรือไม่เห็นแย้งก็ได้เป็นเรื่องปกติ ยืนยันว่าตำรวจทำคดีตรงไปตรงมา ไม่ใช่ทำตามกระแสสังคม…” รองโฆษกตร. กล่าว
“บอส อยู่วิทยา”
นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อายุ 28 ปี ตกเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ในคดีที่ระบุว่า อยู่ในรถเฟอร์รารีคันที่พุ่งชนตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่บนรถจักรยานยนต์ ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 เป็นเหตุให้ตำรวจนายดังกล่าวเสียชีวิต
บอส ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในเวลาต่อมา หลังตำรวจพบรอยน้ำมันจากจุดเกิดเหตุปรากฏเป็นทางยาวไปถึงบ้าน จึงล้อมบ้านก่อนเข้าไปเมื่อได้หมายจับ โดยพบรถเฟอร์รารีในสภาพยับเยินจากแรงชน บอสให้ปากคำตอนนั้นว่าเป็นผู้ขับรถยนต์ แต่อ้างว่าถูกมอเตอร์ไซค์ตัดหน้า จากนั้นประกันตัวออกมาด้วยวงเงิน 5 แสนบาท
คดีดังกล่าว อัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งฟ้องนายวรยุทธ ในข้อหา “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291” มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี แต่แม้ตำรวจจะออกหมายจับหลายครั้ง แต่บอสแจ้งทุกครั้งว่าอยู่ต่างประเทศ ทั้งนี้ ตามกฎหมาย คดีนี้มีอายุความในการติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีเพื่อยื่นฟ้องศาลภายใน 15 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้กระทำความผิด ดังนั้นจึงจะขาดอายุความวันที่ 3 ก.ย.2570