ประเด็นน่าสนใจ
- หนึ่งในผู้ป่วยโควิด-19 ในจีน มีอาการทรุดหนัก จนต้องใช้เครื่องเอคโม หรือเครื่องช่วยพยุงหัวใจและปอด
- หลังการรักษาจนไม่พบเชื้อแล้ว แต่พบว่า ปอดมีภาวะพังผืดแทรกในเนื้อปอด คืนสภาพกลับมาไม่ได้
- แพทย์จึงได้มีการปลูกถ่ายปอดให้กับผู้ป่วย ซึ่งล่าสุด หายดี สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
- แม้ว่า การปลูกถ่ายปอดในผู้ป่วยโควิด-19 จะไม่ใช่รายแรก แต่นับเป็นรายแรกของโลกที่หายป่วยและสามารถกลับบ้านได้
คณะกรรมการจัดทีมผู้เชี่ยวชาญการปลูกถ่ายปอดชั้นนำจากทั่วประเทศมาเริ่มต้นการรักษาตั้งแต่กลางเดือนเมษายน หลังจากนั้นยังมีการหารือทางออนไลน์หลายครั้ง เนื่องจากทีมผู้เชี่ยวชาญ 2 คนจากมณฑลเจียงซูและเจ้อเจียงเดินทางกลับไป
“ผู้คนจากหลากหลายหน่วยงานต่างพยายามอย่างเต็มที่ที่จะช่วยชีวิตผู้ป่วย ซึ่งย้ำมั่นถึงหลักการที่ว่า ‘ชีวิตคนต้องมาก่อน’” หม่ากล่าว
ทั้งนี้ ชายนามสกุลชุ่ยเป็นแรงงานเกษียณอายุ เริ่มมีไข้เมื่อวันที่ 23 ม.ค. และได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 7 ก.พ. เขาถูกย้ายไปที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 18 มี.ค. โดยต้องใช้เครื่องเอคโม หรือเครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอด
หลินฮุ่ยชิง ศัลยแพทย์ทรวงอกอาวุโส กล่าวว่าผลการทดสอบกรดนิวคลีอิกของผู้ป่วยกลับมาเป็นลบหลังการรักษา แต่เขากลับมีภาวะพังผืดแทรกเนื้อปอดที่กลับคืนสภาพไม่ได้อันส่งผลให้ปอดล้มเหลว ซึ่งการผ่าตัดปลูกถ่ายปอดเป็นทางเลือกเดียวที่จะช่วยได้
ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายปอดแห่งชาติประสานกำลังกับโรงพยาบาล ปฏิบัติการผ่าตัดที่ใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมงเมื่อวันที่ 20 เม.ย.
หลังจากรักษาการเกิดภาวะปฏิเสธปอดเฉียบพลัน การติดเชื้ออย่างรุนแรง การดื้อยาหลายขนาน และการทำงานของลำไส้ และไตล้มเหลว ซึ่งเป็นภาวะที่ตามมาหลังการผ่าตัด ชุ่ยก็สามารถประคองร่างกายด้วยตัวเองในกลางเดือนมิถุนายน และย้ายไปนั่งบนรถเข็นได้ในเดือนกรกฎาคม
หลินกล่าวว่ายังมีความจำเป็นต้องฟื้นฟูสมรรถภาพเพิ่มเติม เนื่องจากขาของชุ่ยมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
นอกจากนี้ ชุ่ยยังเป็นผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายสุดท้ายที่ได้รับการรักษาจนหายดีและออกจากโรงพยาบาลเหรินหมินของมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น
ทั้งนี้ เมื่อนับถึงวันพุธ (22 ก.ค.) มณฑลหูเป่ยซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจีน รายงานพบผู้ป่วยยืนยันผลรวมแล้ว 68,135 ราย โดยผู้ป่วย 63,623 รายหายดีออกจากโรงพยาบาลแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตในมณฑลหูเป่ยในขณะนี้อยู่ที่ 4,512 ราย
ที่มา – สำนักข่าวซินหัว