แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น มีประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมฟังการปราศรัยจนแน่นพื้นที่จัดงาน
เวทีปราศรัย “พปชร.ขอนแก่น” มืดฟ้ามัวดิน “สนธิรัตน์” ขอเป็นตัวแทน “บิ๊กตู่” พบ ปชช. พร้อมย้ำนโยบายพรรคไม่โม้-ไม่เคยโกง อ้อนให้เลือกเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน, นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง นาย กอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ และนายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น ช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐหาเสียงในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนแกนนำพรรคจะขึ้นปราศรัยใหญ่ ณ พุทธมณฑลอีสาน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในช่วงเย็น เพื่อช่วยนายวัฒนา ช่างเหลา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 หาเสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับบรรยากาศงานปราศรัย ที่พุทธมณฑลอีสาน มีประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมฟังการปราศรัยจนแน่นพื้นที่จัดงาน รวมจำนวนคนกว่า 3.5หมื่นคน ทำให้การจราจรที่มุ่งหน้าสู่พื้นที่จัดงานติดยาวหลายกิโลเมตร ขณะที่แกนนำเมื่อเดินเข้าสู่พื้นที่จัดงาน มีประชาชนจำนวนมากมอบพวงมาลัยดอกดาวเรือง และผูกผ้าขาวม้ากับเอวแกนนำเพื่อแสดงสัญลักษณ์ของการให้กำลังใจและสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ทำให้แกนนำต้องใช้เวลานานกว่า 15 นาที จึงสามารถเดินขึ้นสู่เวทีปราศรัยได้
จากนั้นนายสุริยะ นำปราศรัยเชิญชวนให้ประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล เพื่อผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน คือ แก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชนที่กู้เงินผ่านกองทุนหมู่บ้าน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนผ่านนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ
ขณะที่นายสนธิรัตน์ กล่าวขอบคุณประชาชนกว่า 3.5 หมื่นคน ที่ร่วมฟังการปราศรัยและให้กำลังใจพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ ตนลงพื้นที่ต่างๆ ฐานะตัวแทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เนื่องจากมีหลายฝ่ายไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ เพราะกลัวคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์จะทำให้พรรคพลังประชารัฐชนะทุกเขตเลือกตั้งแบบถล่มทลาย
ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐเตรียมสานต่อนโยบายสำคัญของรัฐบาลชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกจากนั้นพรรคมีนโยบายที่ดีเพื่อประชาชน อาทิ มารดาประชารัฐ ตั้งครรภ์รับเงินช่วยเหลือทันทีผ่านบัตรสวัสดิการคนท้อง รวม 2.7 หมื่นบาทตลอดการตั้งครรภ์ 9 เดือน, รับเงินช่วยเหลือ 1 หมื่นบาทเมื่อถึงวันคลอด และให้เงินสนับสนุน 2,000 บาทต่อเดือนต่อเนื่อง 6 ปี
“พรรคพลังประชารัฐไม่ขี้โม้ และไม่เคยมีเรื่องคดโกง เห็นได้จากนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เงินในบัตรส่งตรงถึงมือประชาชนอย่างแท้จริงทุกสตางค์ ทั้งนี้วันที่ 24 มีนาคม เป็นวันเปลี่ยนแปลงประเทศ หากเลือกแบบเก่าจะได้แบบเก่า แต่หากอยากได้ของใหม่ อยากได้ความสงบและนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ ผมขอให้จำเบอร์ผู้สมัครให้ดี เพราะแต่ละเขตได้หมายเลขไม่เหมือนกัน แต่หากจำไม่ได้ต้องมองหาโลโก้รังผึ้ง สัญลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐ” นายสนธิรัตน์ กล่าว
ต่อด้วย นายอนุชา ปราศรัยเชิญชวนให้ประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้เป็นรัฐบาลแก้ปัญหาความยากจนของประชาชน ทั้งนี้วันที่ 24 มีนาคม ไม่มีใครบังคับให้ประชาชนเลือกพรรคการเมืองใดได้ เพราะเป็นการใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตย และหากพรรคพลังประชารัฐจะได้เป็นรัฐบาล เป็นเพราะความต้องการของประชาชน
“ผลการเลือกตั้ง คือคำตอบจากคนทั้งประเทศ ไม่มีประเด็นที่บอกว่าเลือกฝ่ายประชาธิปไตยหรือฝ่ายเผด็จการ เพราะหลังการเลือกตั้ง คือการตัดสินใจของประชาชน ขอให้ประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อร่วมมือพาประเทศไปสู่การพัฒนา และจับมือประชาชนก้าวพ้นความยากจน ไปพร้อมกับพรรคพลังประชารัฐ” นายอนุชา กล่าว
ขณะที่นายกอบศักดิ์ ปราศรัยด้วย ว่าจากการลงพื้นที่ที่เขื่อนอุบลรัตน์ และรับฟังข้อมูลว่า ปี 2562 น้ำจะแล้งหนัก ชาวนาไม่สามารถทำนาปรังได้ ซึ่งการแก้ปัญหาน้ำแล้ง พล.อ.ประยุทธ์รับฟังและพร้อมแก้ปัญหา ขณะที่พรรคพลังประชารัฐพร้อมขับเคลื่อน ผ่านโครงการโขง-ชี-มูล เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำโขงลงสู่แม่น้ำชี
และผลักดันเข้าสู่เขื่อนอุบลรัตน์ เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ รวมถึงจะสร้างโครงการประตูระบายน้ำ, โครงการเติมน้ำในเขื่อน เช่น ผลักดันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สู่ลำตะคอง ให้ประชาชนได้รับประโยชน์ ทั้งนี้ในวันที่ 24 มีนาคม ตนขอให้ประชาชนเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงได้ ส.ส.เขต และ ได้ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเข้าไปมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ