‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ นำผู้สมัครส.สเพื่อไทย เขตราชเทวี หาเสียงย่านมักกะสัน จับมือให้คำมั่นสัญญาขออาสาแก้ปัญหาสร้างคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น ตามคอนเซ็ปต์ ‘บ้านใกล้งาน’ จี้ ‘รัฐบาลคสช.’ เร่งหาทางออกกรณีงบบัตรคนจน สิ้นงบเมษายนนี้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เดินทางด้วยจักรยานยนต์รับจ้างลงพื้นที่หาเสียงย่านมักกะสัน เขตราชเทวี พร้อมผูสมัครส.ส.นายประพนธ์ เนตรรังษี เบอร์ 3 และนายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย
โดยคณะหาเสียงของนายชัชชาติ ได้เดินพบปะผู้ค้าและประชาชน บริเวณตลาดสายหยุด ซึ่งบรรยากาศวันนี้ประชาชนได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี อย่างไรก็ดีผู้ค้าในพื้นที่ได้สะท้อนปัญหาว่า อยากให้มีการแก้ปัญหาเรื่องคมนาคม โดยนายชัชชาติได้ให้คำมั่นสัญญาว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะอาสาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และบางรายบอกว่า อยากให้นายชัชชาติ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
หลังจากรับฟังปัญหาและพูดคุยกับตัวแทนชุมชน นายชัชชาติ ระบุว่าปัญหาส่วนใหญ่คือปากท้องและการคมนาคมที่การเดินทางล่าช้า ขณะที่คนในชุมชนรวม 15 ชุมชน ซึ่งเป็นพื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย กังวลว่าจะมีการเปิดให้เช่าพื้นที่และถูกนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งนายชัชชาติมองว่าคนตัวเล็กตัวน้อยคือผู้ที่ขับเคลื่อนกทม.อยู่ จึงเห็นว่าควรมีการทบทวนและพิจารณาให้เหมาะสมและทำให้คนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามคอนเซ็ปต์ ‘บ้านใกล้งาน’ หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ที่มีปัญหาเพื่อเก็บข้อมูลให้ถี่ถ้วน และจัดสรรเรื่องที่อยู่อาศัย รวมถึงดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้มีการใช้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ต้องดูภาพรวมและสำรวจการลงทุนด้านขนส่ง แต่ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะมีเรื่องภาระหนี้ ตอนนี้ต้องทำรางรถไฟทางคู่และจัดหัวรถจักรเพิ่ม และพยายามดึงลูกค้าให้มาใช้ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้เข้ามา ส่วนเรื่องที่ดินต้องต้องนำมาใช้ให้มีประสิทธิภาพ
ขณะที่กรณีผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ออกมาระบุว่างบประมาณสำหรับบัตรสวัสดิกาลแห่งรัฐ มีใช้ถึงเดือนเมษายนนี้ นายชัชชาติ ได้แสดงความกังวลต่อกรณีดังกล่าว เนื่องจากอยู่ในช่วงหลังเลือกตั้งแล้ว ซึ่งรัฐบาลนี้ต้องหาทางออกว่าจะใช้งบประมาณใดมาจ่ายในช่วงฉุกเฉินนี้ หากเพื่อไทยเข้ามาก็ดำเนินการตามระเบียบงบประมาณ สิ่งที่สัญญากับประชาชนไว้แล้วต้องทำต่อ เพราะรัฐบาลผิดสัญญาไม่ได้ อย่างไรก็ตามต้องดูพ.ร.บ.งบประมาณว่าจะงบจากไหนมาสนับสนุนตรงนี้ เพราะคนจนเราต้องช่วยเหลือในมิติที่เหมาะสม