‘บอย เคบี’ โวยซื้อบ้านหรูริมทะเลสาบ 80 ล้าน สุดท้ายสร้างไม่เสร็จ เจ้าของโครงการไม่มีแม้แต่ใบอนุญาตก่อสร้าง แถมได้ที่ดินไม่ครบตามสัญญา!
โลกออนไลน์ต่างฮือฮา เมื่อเฟซบุ๊ก Thanaphan Limruaysrap หรือ บอย เคบี เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมยี่ห้อหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความเป็นอุทาหรณ์สอนใจสำหรับคนคิดจะซื้อบ้าน เนื่องจากตนเองได้ทำสัญญาซื้อบ้านหรูริมทะเลสาบ ซึ่งมีราคาสูงถึง 80 ล้านบาท โดยได้มีการจ่ายเงินไปแล้วเกือบ 7.8 ล้านบาท แต่สุดท้ายกลับมีปัญหามากมายตามมา
ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวระบุว่า “อุทาหรณ์สอนใจสำหรับคนคิดจะซื้อบ้าน เลือกหมู่บ้านผิด คิดจนตัวตาย !! ใครจะคิดว่าการจะซื้อบ้านหลังละ 80 ล้าน จะต้องเจอปัญหาแบบนี้ ดังนั้นจะหมู่บ้านเล็กหรือใหญ่ อย่าวางใจ ตรวจสอบให้ดี ไม่งั้นอาจเจอแบบนี้ เจ้าของโครงการเป็นถึงไฮโซในวงการเซเลป รู้จักคนดังมากมาย ภาพลักษณ์ภายนอกดูดีเหลือเกิน ไม่คิดเลยว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้
บอกก่อนเลยว่าวันที่เราตัดสินใจไปซื้อ เราไปกันเองโดยไม่มีทนาย ไม่มีผู้ที่มีความรู้เรื่องรายละเอียดการซื้อบ้านไปด้วยเลย ด้วยความที่คิดว่ามันก็คงเหมือนการซื้อบ้านทาวโฮมเหมือนที่เราเคยซื้อมา คงไม่ต้องถึงขั้นมีทนาย บ้านราคาหลังตั้ง 80 ล้าน จะไปมีปัญหาได้ยังไง ซึ่งไม่ใช่เลย เราพลาด พลาดมากจริงๆที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยจนปล่อยให้มันเกิดปัญญามาจนถึงวันนี้ บอกเลยว่าโคตรเครียด
ความไม่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มทำสัญญาซื้อบ้าน เอกสารสัญญามีทั้งหมด 3 ฉบับ คือบริษัทของโครงการเอง และของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งวันที่ทำสัญญาซื้อขายกันจริงๆ ในเอกสารแนบท้ายบริษัท ระบุว่าจะต้องมีผู้ลงนาม 2 คน แต่กลับมีแค่นางคนเดียวที่มาเซ็นเอกสารและรับเงินของเราไป
ไม่พอแค่นั้น ในสัญญาตกแต่งบ้านของเรา วัสดุอุปกรณ์ต่างๆรวมราคาหลายสิบล้านบาท แต่ในสัญญาไม่มีข้อมูลรายละเอียดวัสดุอุปกรณ์อะไรให้เราเลย ว่ามีอะไร ใช้อะไรในการสร้างบ้าง สเปค สี รายละเอียดต่างๆ ซึ่งตอนแรกเหมือนจะมี แต่วันทำสัญญา นางดึงออกไปแล้วบอกว่า อ้อ อันนี้ไม่ใช่ของบ้านเรา เป็นของบ้านอื่น แต่เดี๋ยวจะเอามาให้ใหม่ ( แบบนี้ก็ได้หรอ? ) ในขณะที่เราพยายามตามเอกสารนั้นมาตลอด นางก็บ่ายเบี่ยง เดี๋ยวนั่นเดี๋ยวนี่ ไม่ได้สักที และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ยังไม่มีเอกสารรายละเอียดวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการตกแต่งบ้านอะไรให้เราเลย
ในสัญญาระบุว่าบ้านจะสร้างแล้วเสร็จในวันที่ 20 ธันวาคม 2561 แต่เมื่อวันที่เราเข้าไปเช็คประเมินคือตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2561 ก็เห็นได้ชัดแล้วว่ายังไงก็ไม่มีทางเสร็จทันตามที่ตกลงกันไว้แน่ๆ ในขณะที่เราต้องจ่ายค่างวดทุกๆเดือน กับความไม่ชัดเจนแบบนี้ ถามว่าใครจะกล้าจ่ายต่อ เพราะมันยังไม่มีอะไรที่ชัดเจนสมบูรณ์เลยสักอย่าง ซึ่งมันไม่สอดคล้องกับที่ระบุไว้แต่แรกเลยสักนิดเดียว
พีคกว่านั้นคือ การจะสร้างบ้าน มันต้องมีใบขออนุญาติการก่อสร้าง ซึ่งพอเราถามเค้าว่าเรามีใบอนุญาติการก่อสร้างบ้านหรือยัง ? ฝั่งนั้นตอบกลับมาว่า ยังไม่มี ยังไม่ได้ขอ กำลังจะยื่นขอให้ และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าสรุปนางได้ยื่นขอใบอนุญาติการก่อสร้างหรือยัง ( ทั้งๆที่เริ่มสร้างไปก่อนหน้านั้นแล้ว )
ยัง ยังไม่สุด มีพีคกว่านั้นอีก การจะสร้างบ้าน เราต้องมีพิมพ์เขียว มีแปลนบ้านถูกมั้ย เราไม่มี เราไม่ได้รับ เราขอเค้าไป เค้าเอาแปลนและพิมพ์เขียวของบ้านหลังข้างๆมาให้ แล้วบอกว่าของเราก็แบบนี้แหละ แต่ว่ากลับด้านเอาค่ะ
และสิ่งที่เรามั่นใจเลยว่าจะพอ กับโครงการนี้ นั่นคือขนาดของที่ดินที่ระบุไว้ในสัญญาที่จะต้องเป็นของเรา พนักงานขายบอกเราว่าส่วนหนึ่งมันอยู่ในทะเลสาป แต่พื้นที่ในทะเลสาป ไม่ใช่ที่ของโครงการนี้ นั่นหมายความว่าที่ดินส่วนหนึ่งที่นางจะขายให้เรา คือที่ดินที่ไม่ใช่ของนางเองด้วย นั่นคือเราจะได้ที่ดินไม่ครบตามที่ตกลงกันไว้
ทั้งหมดทั้งมวลคือเราพยายามติดต่อให้นางมาใกล่เกลี่ยก็แล้ว อะไรก็แล้ว รอมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา นางกลับยังคงไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง ปาร์ตี้บ้าง ชิวกับแก๊งไฮโซของนางบ้าง โดยที่ไม่คิดจะมาเคลียร์กับเราเลยสักนิด
และไม่ได้มีแค่เราที่โดน แทบทุกคนที่หลงมาซื้อบ้านโครงการนี้มีปัญหาหมด บางคนมากกว่าเราด้วยซ้ำ มีการพูดคุยกัน แต่เค้าบอกว่าฟ้องไปก็เท่านั้น คนๆนี้เค้าไม่ธรรมดา.. เราได้ยินแบบนี้ก็ทรุดเลย เงินที่เสียไปเกือบ 10 ล้านต้องมาสูญเปล่าจริงๆหรอ ?
เพราะขนาดคนที่โดนมากกว่าเรา โดนมาก่อนเรา เค้ายังไม่มีความคืบหน้าอะไรได้เลย ในขณะที่เคสของเรา นางปล่อยเฉย ชิวยิ่งกว่า แสดงว่าคงชินกับการมีปัญหาแบบนี้ และคงไม่เคยทำอะไรนางได้เลยจริงๆ เสียความรู้สึกมาก”