เวเนซุเอลาเผชิญไฟดับทั้งประเทศต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ส่งผลให้ประชาชนกังวลถึงผลกระทบที่จะตามมา
เมื่อวานนี้ (10 มี.ค. 2562) ถือเป็นวันที่ 4 แล้ว ที่เวเนซุเอลาต้องเผชิญกับเหตุไฟฟ้าดับทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนต่างกังวลถึงปัญหาด้านสาธารณสุข ระบบคมนาคม และการติดต่อสื่อสาร
เหตุไฟดับเริ่มต้นขึ้นเมื่อบ่ายวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ยิ่งซ้ำเติมให้ชาวเวเนฯ ต้องทนทุกข์กับการขาดแคลนอาหารและยา ส่งผลให้ผู้คนในกรุงการากัสต้องเดินเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรไปทำงาน เนื่องจากรถไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ ด้านญาติของชาวเวเนฯ ที่อยู่ต่างประเทศต่างกังวลที่ไม่สามารถโทรศัพท์หาหรือติดต่อญาติได้ ขณะที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตติดๆ ขัดๆ
องค์กร Doctors for Health องค์กรเอกชนที่ทำงานด้านสาธารณสุข ระบุว่า เนื่องจากเหตุไฟฟ้าดับและระบบไฟสำรองที่แย่ ส่งผลให้คนไข้เสียชีวิตแล้ว 17 ราย
แต่ยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตดังกล่าวได้แน่ชัด และยังไม่มีข้อมูลจากรัฐบาล
หลังเกิดเหตุไฟฟ้าดับ นายนิโกลัส มาดูโร่ ประธานาธิบดีเวเนฯ ออกมาระบุว่า เครือข่ายไฟฟ้าของประเทศถูก “โจมตี” จากสหรัฐฯ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เป็นผลจากการไม่ลงทุนพัฒนานานหลายปีของเวเนซุเอลา
ด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ปฏิเสธคำกล่าวหาของนายมาดูโร่ โดยเขาทวีตข้อความว่า เหตุไฟฟ้าดับและความอดอยากในเวเนฯ ไม่ได้เป็นเพราะสหรัฐฯ หรือประเทศใด แต่เป็นผลจากการปกครองที่ไร้ความสามารถของนายมาดูโร่
เหตุไฟดับครั้งนี้ถือว่ายาวนานที่สุดในรอบทศวรรษ โดยเมื่อปี 2556 กรุงการากัส และรัฐต่างๆ อีก 17 รัฐ จากทั้งหมด 23 รัฐ เผชิญกับเหตุไฟดับนาน 6 ชั่วโมง ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว 8 รัฐของประเทศ เผชิญไฟดับนานถึง 10 ชั่วโมง