ชาวเน็ตแชร์คลิปลูกค้าวัยกลางคนเข้ามาซื้อทุเรียน ก่อนจะเกิดอาการหัวร้อนเข้ามาปอกทุเรียนเองแล้วเกิดการปะทะกับแม่ค้า
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ เล็ก ผลไม้ โพสต์คลิปหญิงคนหนึ่ง ระบุว่าเป็นลูกค้าเข้ามาซื้อทุเรียนภายในร้านค้าแห่งหนึ่ง แล้วเกิดอาการหัวร้อนเข้ามาปอกทุเรียนเอง แล้วเกิดปากเสียงกับแม่ค้านานนับชั่วโมง จนแม่ค้าได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมข้อความระบุว่า
“ระวังกันหน่อยนะค่ะแม่ค้าทุเรียนแก่ว่าอ่อนมันจะมีมนุษย์ป้าหลายประเทศเลือกเองปอกเองแต่ไม่อยากจ่ายตังมาทำร้ายแม่ค้าทุเรียนแบบเราด้วย(อยากให้แม่ค้าทุกแชร์ลูกค้าแบบนี้ค่ะ)”
ภายหลังจากผู้โพสต์ได้โพสต์คลิปไปทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ และแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ต่างบอกว่าที่ร้านขายทุเรียนร้านนี้เป็นร้านที่ดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเป็นอย่างดี ลูกค้าที่ซื้อเกิดไม่พอใจในสินค้าสามารถเปลี่ยนใหม่ได้ทันที วึ่งเป็นร้านที่มีชื่อเสียงและเปิดมานานหลายสิบปีแล้ว และการกระทำของลูกค้ารายนี้คาดว่าต้องการจะมาหาเรื่องอย่างแน่นอน
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวที่ ร้านเล็ก ผลไม้ ไม่มีเลขที่ ริมถนนบ้านกอก ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเปิดเป็นร้านขายผลไม้ตามฤดูกาล มีทั้งทุเรียน ส้ม มะม่วง และผลไม้สดชนิดต่างๆอีกจำนวนมาก
โดยได้สอบถามจากนางสาวสุนารี ย่องอาตี๋ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านและผู้โพสต์คลิปดังกล่าว เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.20 น. วันที่ 10 มี.ค.2562 ที่ผ่านมา โดยขณะนั้นได้เปิดร้านขายผลไม้ตามปกติ ซึ่งขายมานานถึง 14 ปีแล้ว กระทั่งมีหญิงวัยกลางคนอายุประมาณ 40-45 ปี เข้ามาเลือกซื้อทุเรียนอยู่เป็นเวลานาน ก่อนที่จะบอกว่าขอเลือกเองได้ไหม พร้อมขอไม้มาเคาะฟังเสียงทุเรียนว่าลูกไหนสุกหรือห่าม ตนเองจึงบอกว่าชอบแบบไหนจะเลือกให้ เพราะทุเรียนที่ร้านรับมากว่าวันละ 500 กิโลกรัม มีทั้งสุก ทั้งห่าม แต่ลูกค้ารายนี้ไม่ยอมจะขอเลือกเอง พร้อมกับบอกว่าตัวเองเป็นแม่ค้าเคยขายทุเรียนมาก่อน
ส่วนตนนั้นเป็นแม่ค้าใหม่ยืนยันว่าจะเลือกเอง แต่ขณะนั้นมีลูกค้าเยอะตนเองจึงให้บริการตามคิวโดยบอกว่าให้รอสักครู่ ก่อนที่หญิงรายดังกล่าวจะเลือกทุเรียนขนาดใหญ่มา 1 ลูกแล้วยื่นมาให้ ตนจึงรับเอาและนำไปวางไว้บนโต๊ะเตรียมปอกเปลือกแพ็คใส่ถุงให้ ตนจึงเรียกพนักงานที่ร้านเข้ามาช่วยปอก เพื่อที่ตนเองจะทำการปอกเปลือกทุเรียนให้กับหญิงรายดังกล่าว แต่หญิงรายดังกล่าวเริ่มมีอารมณ์ ตะโกนขึ้นมาว่าทำไมปอกช้าจัง ซึ่งตามความเป็นจริงคือทุเรียนมันห่ามและมีหนาม และการปอกก็ไม่ใช้เรื่องง่าย กระทั่งหญิงรายดังกล่าวเดินเข้ามาในร้านและขอปอกเองเพราะรอไม่ไหว พร้อมทั้งใช้คำพูดที่ไม่สุภาพและด่าทอตนเอง ตนเองจึงให้หญิงรายดังกล่าวปอกเอง
ด้วยความที่ว่าหญิงรายดังกล่าวบอกว่าเป็นแม่ค้าขายทุเรียนมาก่อนจึงยอมให้ปอก เพราะปกติแล้วทางร้านจะเจาะให้ลูกค้าจิ้มดูก่อนว่าชอบแบบนี้หรือไม่ หากชอบก็จะทำการปอก แต่หญิงรายนี้ไม่สนใจเลือกที่จะมาขอปอกเอง กระทั่งหญิงรายดังกล่าวปอกเปลืองออกจนหมด และบอกว่าทุเรียนเปรี้ยว ไม่อ่อน และไม่ต้องการลูกนี้แล้ว ขอเปลี่ยนลูกใหม่
ตนเองจึงบอกว่าพี่ทำแบบนี้ไม่ได้ พี่ปอกไปจนหมดแล้ว เป็นแม่ค้าเคยขายทุเรียนถ้ารู้ว่าไม่สุกตามที่ต้องการแล้วแกะออกหมดทำไม ทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย หากไม่ปอกเปลืองออกหมดก็จะสามารถบ่มให้สุกและขายให้คนอื่นได้ แล้วทำไมจึงไม่ขอเปลี่ยนตั้งแต่แรก ตั้งแต่ที่จับดู ซึ่งเกิดการถกเถียงกันอยู่นานตนเองก็ยืนยันว่าหากจะเอาลูกใหม่ก็ต้องจ่ายลูกนี้มาก่อนในราคา 350 บาท ซึ่งน้ำหนักของทุเรียนรวมเกือบ 3 กก. ที่ร้านขายในราคากก.ละ 130 บาท
แต่ลูกค้ารายนี้ไม่ยอม พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายคลิป และด่าตนเสียๆหายๆ พร้อมบอกกับลูกค้าที่อยู่ในร้าน และลูกค้าที่มาจอดรถซื้อว่าไม่ต้องซื้อของร้านนี้เพราะเอาเปรียบลูกค้า ตนเองจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ว่าให้ออกมาระงับเหตุเพราะเหตุการณ์เริ่มบานปลายและตนเองเป็นฝ่ายเสียหาย ถูกทำร้ายมีร่องรอยบาดแผล แต่ตำรวจไม่ออกมาเพราะจะให้เคลียร์กันเอง หญิงรายดังกล่าวได้โทรศัพท์ไปบอกตำรวจด้วยเช่นกันว่าไม่ต้องมา พร้อมทั้งอ้างว่าตัวเองเส้นใหญ่ ถึงแจ้งตำรวจไปก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ก่อนที่สามีของหญิงรายดังกล่าวจะลงมาจากรถเก๋งเพราะกินเวลาไปเกือบ 1 ชั่วโมงแล้ว แต่ลูกค้ารายนี้ยังคงด่าทอตลอดเวลา ซึ่งสามีของลูกค้ารายนี้ได้พูดคุยกับตนเองและจะจ่ายเงินแล้ว แต่หญิงรายนี้ไม่ยอมให้จ่าย และบอกว่าจะจ่ายแค่ครึ่งเดียวคือ 175 บาท ก่อนที่สามีจะจ่ายเงินมาเป็นจำนวน 170 บาท โดยหญิงรายนี้หยิบไปทั้งลูกแล้วนำไปโยนทิ้งกลางถนน ทำให้ตนเองรู้สึกไม่พอใจและไม่ยอมกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ซึ่งลักษณะของหญิงรายนี้คาดว่าจะมาหาเรื่องที่ร้านโดยเฉพาะ หากทำแบบนี้กับร้านตนเองได้ ก็จะต้องทำกับร้านอื่นๆอีกหลายร้าน แต่ตนเองก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะแจ้งตำรวจ สภ.บ้านเป็ดไปแล้ว แต่ตำรวจไม่ออกมาในขณะเกิดเหตุ ตนเองจึงปรึกษากับเพื่อนๆและเถ้าแก่ จึงได้นำคลิปดังกล่าวมาเตือนภัยแม่ค้าที่ขายทุเรียนด้วยกัน
