เชียงใหม่ยังวิกฤต ฝุ่น PM2.5 พุ่ง ทำเป็นเมืองอากาศแย่ติดอันดับโลก 4 วันติด เร่งพ่นละอองน้ำให้ความชุ่มชื้น ด้าน ผู้ว่าฯ ยันไม่ได้หนีไปไหน หลังคนในโซเชียลโพสต์ตามหาให้มาแก้ไขปัญหา
วันนี้ (14 มี.ค. 2562) ผู้สื่อข่าว MThai รายงานถึงสถานการณ์วิกฤตมลพิษทางอากาศในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูงจนติดอันดับ 1 ของโลกเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ว่า ในวันนี้ยังคงมีหมอกควันหนาทึบปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง
ซึ่งทางเว็ปไซต์ airvisual.com รายงานคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ ค่า AQI อยู่ที่ 280 ( 11.00 น.) รั้งอันดับสองเมืองคุณภาพอากาศแย่ที่สุดในโลก โดยจังหวัดเชียงใหม่อยู่หนึ่งในสามเมืองคุณภาพอากาศย่ำแย่ที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นวันที่สี่
ส่วนค่าคุณภาพอากาศที่วัดโดยกรมควบคุมมลพิษในช่วงเวลาเดียวกันพบว่าค่า AQI อยู่ที่ 232 โดยมีค่าพีเอ๋ม 2.5 อยู่ที่ 122 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สถานการณ์ที่ยังไม่มีแนวโน้มจะคลี่คลาย ยังคงส่งผลกระทบต่อการบิน โดยในวันนี้สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้ยกเลิกเที่ยวบิน PG 351 เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ในเวลา 09.20 น. เนื่องจากทัศนวิสัยที่สนามบินแม่ฮ่องสอนต่ำ เป็นการยกเลิกเที่ยวบินติดต่อกันเป็นวันที่สี่
ขณะเดียวกันฝุ่นควันสะสมหลายวัน สร้างความกังวลใจให้กับชาวเชียงใหม่ โดยเฉพาะในเรื่องสุขภาพ และ ต่างหวังกันว่าจะมีลมธรรมชาติจากพายุฤดูร้อนเข้ามาพัดเอากลุ่มหมอกควันออกไปจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด พร้อมกับเรียกร้องให้ภาครัฐหามาตรการแก้ไขปัญหาให้ได้ผลมากกว่านี้
ขณะที่หลายหน่วยงานในจังหวัดยังคงเร่งใช้ทุกมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากฝุ่นพิษ โดยช่วงเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานระดมฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณลานช่วงประตูท่าแพและพื้นที่รอบคูเมืองเชียงใหม่ เพื่อลดปริมาณฝุ่นควันและสร้างความชุ่มชื้นในอากาศ
ด้าน นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวช่วงหนึ่งระหว่างการนำเจ้าหน้าที่ ปล่อยแถวฉีดพ่นละอองน้ำรอบตัวเมืองเชียงใหม่ และจุดต่างๆ ในพื้นที่เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ บรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงเกินค่ามาตรฐาน ถึงกรณีที่มีคนประกาศตามหาผ่านโซเชียล หลังไม่เห็นเข้าจัดการปัญหาหมอกควันในพื้นที่ ว่า ยืนยันตัวเองไม่ได้หายไปไหน
แต่ได้ทำงานแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกหน่วยงานอยู่ตลอด รวมทั้งจะยืนหยัดเคียงคู่อยู่กับคนเชียงใหม่ทุกวินาทีเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ทั้งนี้ ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองใดๆ ที่มีผู้โพสต์ลักษณะดังกล่าว และรู้สึกขอบคุณด้วยที่เป็นการสะท้อนให้ทราบความรู้สึกและความต้องการของประชาชน