สหรัฐฯ ตั้งข้อหาผู้ต้องสงสัยกว่า 50 คน รวมถึงนักแสดงชื่อดัง นับเป็นการเปิดโปงแผนโกงเพื่อช่วยลูกหลานของคนมีฐานะให้เข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
ทางการสหรัฐฯ จับกุมและดำเนินคดีกับบุคคลราว 50 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นบุคคลมีฐานะ รวมถึงนักแสดงฮอลลีวู้ด คือ นางเฟลิซิตี้ ฮัฟฟ์แมน และนางลอรี ลาฟลิน ฐานเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการทุจริตและฉ้อโกง ในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง เช่นมหาวิทยาลัยเยล, จอร์จทาวน์, สแตนฟอร์ด และวิทยาเขตหลายแห่งของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย
อัยการแถลงถึงปฏิบัติการเปิดโปงแผนโกงเข้ามหาวิทยาลัยครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ว่า มีนายวิลเลียม ซิงเกอร์ วัย 58 ปี เป็นตัวการสำคัญ โดยบริษัท เอดจ์ คอลเลจ แอนด์ แคเรีย เน็ตเวิร์ก ของเขา เรียกรับเงินจากผู้ปกครองตั้งแต่ 1 แสน จนถึงกว่า 2.5 ล้านดอลลาร์ ต่อเด็ก 1 คน โดยบังหน้าว่าเป็นเงินบริจาคเข้ามูลนิธิของเขา นายซิงเกอร์รับสารภาพความผิดข้อหากรรโชกทรัพย์ ฟอกเงิน และขัดขวางกระบวนการยุติธรรม เขาอาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 65 ปี และถูกปรับเป็นเงินกว่า 1 ล้านดอลลาร์
การเปิดโปงแผนการโกงครั้งมโหฬารนี้เป็นปฏิบัติการภายใต้รหัส Operation Varsity Blues โดยเจ้าหน้าที่กว่า 300 นายออกปฏิบัติการทั่วประเทศ อัยการระบุชื่อผู้ต้องสงสัยที่เป็นผู้ปกครอง 33 คน โค้ช 13 คน และผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจของนายซิงเกอร์ ขณะที่การสืบสวนจะยังคงดำเนินต่อไป และอาจมีผู้ปกครองและโค้ชถูกควบคุมตัวเพิ่มอีก
รายงานระบุถึงกลโกงของนายซิงเกอร์ ซึ่งมีตั้งแต่โกงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในรูปแบบต่างๆ จนถึงการใช้ความสัมพันธ์กับโค้ชกีฬาในมหาวิทยาลัยชื่อดังและเงินสินบน เพื่อสร้างประวัติปลอมให้เป็นนักกีฬา โดยในระหว่างปี 2554 ถึง 2561 นายซิงเกอร์มีรายได้ 25 ล้านดอลลาร์ หรือราว 790 ล้านบาท
อัยการเผยว่านักศึกษาส่วนใหญ่ยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องนี้ แต่มีหลายรายที่เด็กมีส่วนรู้เห็น และบรรดาผู้ปกครองจะถูกดำเนินคดี ซึ่งมีรายงานว่านางฮัฟฟ์แมนได้รับการประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 8 ล้านบาท และต้องขึ้นศาลที่เมืองบอสตัน ในวันที่ 29 มีนาคมนี้ ขณะที่สถานศึกษาทุกแห่งพร้อมให้ความร่วมมือกับทางการ