เลือกตั้ง62

เลือกตั้ง 62 : ’บิ๊กตู่’ อ้อนคนฝั่งธนฯ รักแล้วรอหน่อย ขอให้เชื่อมั่น

“ชี้ชะตาประเทศไทย เลือกตั้ง 2562 กับเว็บไซต์ MThai.com“  “บิ้กตู่” อ้อน คนฝั่งธน รักแล้วรอหน่อย ขอให้เชื่อมั่น ร่วมก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันด้วยความเข้าใจ  แม้หลายอย่างต้องใช้เวลา วันนี้ (15 มี.…

Home / NEWS / เลือกตั้ง 62 : ’บิ๊กตู่’ อ้อนคนฝั่งธนฯ รักแล้วรอหน่อย ขอให้เชื่อมั่น

“ชี้ชะตาประเทศไทย เลือกตั้ง 2562 กับเว็บไซต์ MThai.com

 “บิ้กตู่” อ้อน คนฝั่งธน รักแล้วรอหน่อย ขอให้เชื่อมั่น ร่วมก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันด้วยความเข้าใจ  แม้หลายอย่างต้องใช้เวลา

วันนี้ (15 มี. ค. 62) ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด เขตทุ่งครุ จ. กรุงเทพฯ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายคุณอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค  นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์ กทม.นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค ร่วมปราศรัยหาเสียงช่วย ผู้สมัคร มีประชาชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายอุตตม กล่าวปราศรัยว่า การมาพบพี่น้องชาวฝั่งธน ถือเป็นเวทีแรกในเขต กทม. พรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคน้องใหม่ แต่ใจโต พร้อมเอาแรงกายแรงสมองเข้ามาทำงานให้พี่น้องประชาชน ซึ่งชาวฝั่งธนรู้ดีว่าที่ผ่านมามีโอกาสแต่ก็พลาดไปหลายอย่าง ถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนแปลง จึงขอโอกาสอาสามาทำงานรับใช้ โดยเสนอนโยบายที่ได้รับฟังเสียงจากประชาชน ยืนยัน พรรค มีบุคคลากรที่ดี มีคุณสมบัติ มาด้วยใจ มีนโยบายที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหา สามารถพัฒนาชุมชน ทำได้จริง และไม่มีปัญหา  พร้อมระบุว่า วันนี้ไม่ใช่เวลาสร้างวาทกรรม หรือแบ่งขั้วกัน แต่เป็นการนำเสนอนโยบายให้พี่น้องประชาชน และหากมีโอกาสเข้ามาก็จะทำทันทีและต่อเนื่อง เพราะพรรคมีความพร้อม และมีผู้ที่เหมาะสมนำพาประเทศไปข้างหน้า  ทั้งนี้ ช่วงหนึ่งของการปราศรัย พรรคพลังประชารัฐได้เปิดคลิปวิดิโอของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อสื่อสารถึงประชาชน

 “สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่านผม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ หัวใจดวงนี้ของผมนั้นให้กับชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มานานแล้วตั้งแต่เกิดมาแล้ว ตั้งแต่เป็นทหารมาต้องดูแลคนทั้งประเทศ เป็นงานที่ยากแต่ผมไม่เคยท้อแท้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมท้อแท้นั่นแสดงว่าเราจะไม่เดินไปข้างหน้า ไม่ได้นะครับ สัญชาตญาณความเป็นทหารของผมยังมีอยู่ทุกอย่าง

เพราะฉะนั้นวันนี้ผมก็ต้องปรับตัวของผมเองให้ทำงานกับคนทุกคนได้ ไม่ใช่ว่าเราจะเลือกข้างใครก็ได้ อะไรก็ได้ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะวันนี้มันเป็นรัฐบาลที่เรามาจากการเลือกตั้ง มาจากคนหลายพวกหลายฝ่าย แต่ทุกคน ถ้าเราเลือกคนดีเข้ามาในสภาเราก็จะได้รัฐบาล ได้ ครม.ที่มีประสิทธิภาพ ทำเพื่อประชาชน ทำประโยชน์เพื่อประชาชนไม่ใช่ผลประโยชน์ พร้อมเดินไปกับผมหรือยัง พร้อมจะก้าวไปข้างหน้ากับผมหรือยัง ถ้าเราก้าวไปข้างหน้าบ้างก้าวถอยหลังบ้าง แล้วก็เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาสะเปะสะปะ มันก็ไปถึงที่หมายช้าหน่อย เราต้องเดินหน้าไปด้วยความเข้าใจร่วมกัน แล้วเข้าใจไหมว่า เราต้องทำอย่างไรต่อไป เราจะต้องทำต่อจากของเดิมที่มานี่แหละ หลายอย่างต้องเริ่มใหม่ หลายอย่างต้องเพิ่มขึ้น แต่ต้องช่วยกันด้วยสองมือ 68 ล้านหัวใจเดินไปด้วยกันข้างหน้า ไม่ร่วมมือมันก็ไม่สำเร็จ ก็อยากให้ทุกคนเชื่อมั่น ในเมื่อทุกคนเชื่อมั่นผมมา 5 ปีแล้ว 5 ปีนะไม่ใช่สั้นๆ เป็น 5 ปีแห่งความยากลำบากในการแก้ปัญหาแต่มันมีอนาคต เรากำลังทำเพื่ออนาคต อนาคตมันต้องทำวันนี้

ไม่ใช่ไปหวังเอาข้างหน้าอย่างเดียวและมันต้องต่อยอดจากอดีตที่เราทำมาแล้วมันถึงจะเดินหน้าต่อไป วันนี้โลกมันมาแบบนี้ วันนี้ประเทศไทยเจริญเติบโตมาแบบนี้ อะไรดีผมก็ทำต่อ อะไรที่ไม่ดีผมก็ไม่ทำ  โอเคนะครับร่วมมือกับเรานะครับ ยิ้ม ยิ้มหวานๆ ให้กัน เราต้องไม่ทะเลาะกันอีก ฉีกยิ้มกว้างๆ ผมเองก็ยิ้มมากขึ้นในตอนนี้ ผมเห็นในความสำเร็จบ้างเห็นความร่วมมือเห็นรอยยิ้มของประชาชนมากๆ ผมก็ยิ้มออก เราอย่าไปทำหน้าบึ้งตึงใส่กันอีกเลย ผมต้องการความรัก ความสามัคคีไปด้วยกัน ขอความสุขขอความรักขอความสามัคคีกลับมาเถอะครับ ให้ประเทศไทย ให้ตัวเรา ให้ครอบครัวเรา ให้สังคมเรา เกิดความอบอุ่นไปในวันข้างหน้า นั่นแหละครับเขาเรียกว่าอนาคต เห็นด้วยกับผมไหม เราต้องเดินหน้าไปด้วยกัน พอใจหรือไม่ รอได้ไหม แบบบางเพลงเขาพูดว่ารักแล้วรอหน่อย รักแล้วรักนานๆ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ด้าน นาย สนธิรัตน์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเลือกตั้งที่สำคัญ เป็นการคืนประชาธิปไตย ประชาชนต้วช่วยกันไม่ให้บ้านเมืองกลับไปเป็นเหมือนเดิม  ทั้งนี้ การที่พรรคพลังประชารัฐ ต้องเกิดขึ้นเพราะการเมือง 2 ขั้วที่ต่อสู้กันมายาวนาน และทำประเทศหยุดนิ่งมา 10 กว่าปี พรรค จึงต้องอาสามาเป็นทางออกของประเทศ  ไม่ให้ติดทางตันอีก อีกทั้งพรรคพลังประชารัฐเห็นว่าประเทศจะเดินมาถึงตรงนี้จึงได้ตัดสินใจเชิญ พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีเพราะบ้านเมืองต้องการผู้นำที่เข้มแข็งและจริงใจกับประชาชน ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับ ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจอนาคตของประเทศ 

ขณะที่  นายพุทธิพงษ์ ยืนยันว่า จากนี้พรรคพลังประชารัฐ จะทำให้ คนฝั่งธนและฝั่งพระนครต้องเท่าเทียมกัน ไม่เป็นลูกเมียน้อยเหมือนในอดีต พร้อมระบุว่า ผู้สมัคร ส.ส. ฝั่งธน เป็นคนมีคุณภาพทุกคน และขอให้คนฝั่งธนสร้างปรากฎการณ์ใหม่ด้วยการไม่เลือกผู้แทนที่เป็นนักเลง และขี้โกง แต่จะต้องได้นักการเมืองที่เป็นคนรุ่นใหม่มาเป็นผูแทน นอกจากนี้ พรรคพลังประชารัฐจะผลักดันนโยบายเปิดตลาดนัดประชารัฐทั่วทั้งกรุงเทพฯ ให้เป็นระบบ เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าได้มีที่ขายของ และพร้อมดูแลคนฝั่งธน