“แอปเปิล” รายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด โดยมีรายได้ลดลงร้อยละ 5 ขณะที่ยอดขายไอโฟนร่วงลงร้อยละ 15
“แอปเปิล” บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2562 ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 29 ธันวาคมปี 2561 โดยบริษัทมีรายได้รวม 84,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.64 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนยอดขายในตลาดต่างประเทศมีสัดส่วนร้อยละ 62 ของรายได้ทั้งหมด
ขณะที่รายได้จากไอโฟนลดลงร้อยละ 15 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนับเป็นการลดลงในช่วงเทศกาลช็อปปิ้งครั้งแรก
สำหรับรายได้รวมของทุกผลิตภัณฑ์และบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 19 โดยเฉพาะรายได้จากบริการที่ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 1,900 ล้านดอลลาร์ หรือ 3.4 หมื่นหมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
รายได้จากผลิตภัณฑ์แมคและอุปกรณ์สวมใส่ไร้สาย โตร้อยละ 9 ส่วนผลิตภัณฑ์ภายในบ้านและอุปกรณ์เสริมขยายตัวร้อยละ 33 และรายได้จากไอแพดเพิ่มขึ้นร้อยละ 17
ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า นายทิม คุก CEO ของแอปเปิลมีแผนจะปรับลดราคาไอโฟนบางรุ่นลง เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 12 ปี ตั้งแต่มีการเปิดตัวไอโฟน โดยจะตั้งราคาอิงกับสกุลเงินท้องถิ่น แทนที่จะอิงกับสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งแข็งค่าขึ้น
ท่าทีดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะรับมือกับยอดขายไอโฟนที่ลดลง โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ เช่น จีน ซึ่งเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นร้อยละ 10 เมื่อปีที่แล้ว ทำให้ผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลมีราคาแพงกว่าคู่แข่ง