“ชี้ชะตาประเทศไทย เลือกตั้ง 2562 กับเว็บไซต์ MThai.com“
อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุ นายกรัฐมนตรี เป็นตำแหน่งสำคัญกับชาติบ้านเมือง ต้องมาจากการเลือกโดย ส.ส.เท่านั้น
วันนี้ (16 มี.ค.62) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวในประเด็นการเมืองในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ระบุว่า นายกรัฐมนตรี เป็นตำแหน่งสำคัญกับชาติบ้านเมือง ต้องมาจากการเลือกโดย ส.ส.เท่านั้น ไม่ใช่ว่า มี ส.ส.นิดเดียวแล้วไปหวังพึ่ง ส.ว.แบบนั้น ถึงเป็นนายกฯ ก็บริหารบ้านเมืองลำบาก เพราะต้องแก้ไขปัญหาการเมืองที่ละขยัก
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีคู่ขัดแย้ง เราอยากทำงานให้บ้านเมือง เราพร้อมเป็นตัวกลางประสานแต่ละพรรค แต่ละขั้ว และหวังได้ทำหน้าที่ตรงนั้น
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการกล่าวหาว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพรรคพลังประชารัฐ ใช้งบรัฐหาเสียง นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่ก้าวก่ายเรื่องของคนอื่น ขอทำงานให้ดีที่สุด
เหลือ 6 วันสุดท้าย ต้องลงพื้นที่เท่านั้น และต้องคอยระวังไม่ให้คนของพรรคทำเรื่องผิดกฎหมาย มาถึงตอนนี้ เราทำเต็มที่ ผลจะเป็นอย่างไร ขึ้นกับประชาชนตัดสินใจ
“ส่วนเงื่อนไขการร่วมรัฐบาล ที่เอ่ยถึงเรื่องความมีเสถียรภาพ พรรคภูมิใจไทยอยากเห็นนายกรัฐมนตรี ที่เข้ามาแล้วทำงานได้เลย เท่ากับต้องมีเสียงสนับสนุนใน ส.สเกินกึ่งหนึ่งเพื่อที่จะทำให้นายกฯ ท่านนั้นนำพารัฐนาวาไปสู่ความเจริญก้าวหน้า
เสียง ส.ส.มันไม่ใช่แค่กึ่งหนึ่ง แต่มันจะต้องมั่นคง การทำงานจะได้สะดวก”
ส่วนกรณีที่เคยให้สัมภาษณ์ว่ารัฐบาลชุดหน้าอาจจะอยู่ได้ไม่ครบเทอม นายอนุทิน ระบุว่า เป็นการวิเคราะห์จากสถานการณ์ เนื่องจาก มีกฎเกณฑ์มากมาย มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลายฝ่าย อาจจะต้องปรับตัวในการทำงาน จนคิดว่ารัฐบาลมีอายุ ปีครึ่ง 2 ปีก็เก่งแล้ว พรรคภูมิใจไทยจึงได้เสนอนโยบายที่ทำได้ทันที เข้าไปแล้ว ต้องทำเลย เราจะเสียเวลามาศึกษานโยบายนานๆไม่ได้
ข้อมูลเพิ่มเติม ‘พรรคภูมิใจไทย’
พรรคภูมิใจไทย ก่อตั้งเมื่อ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 มี นายพิพัฒน์ พรมวราภรณ์ เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก นายมงคล ศรีอ่อน เป็นเลขาธิการพรรคคนแรก และนางวันเพ็ญ ขวัญวงศ์ เป็นโฆษกพรรคคนแรก ปัจจุบันมีนาย อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรคนาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็นเลขาธิการพรรค และ พันเอก เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ เป็นโฆษกพรรค ที่ทำการพรรค อยู่อาคารเลขที่ 2159/11 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
นโยบายพรรค
กัญชาเสรี: แก้พรบ.ยาเสพติด พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ สร้างความร่ำรวยให้คนไทย
กัญชาเป็นพืชสมนไพร เป็นการแพทย์ทางเลือก โดยพรรคภูมิใจไทย นำเสนอรูปแบบการปลูกกัญชา ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยให้ผู้ที่จะปลูกกัญชา ต้องมีการลงทะเบียน และอนุญาตให้ปลูกได้ โดยต้องมีการจ่ายค่าธรรมเนียมต่อต้น เชื่อว่ากัญชา จะสามารถสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกร เนื่องจากในต่างประเทศมีการซื้อขายกันสูงถึงกิโลกรัมละ 70,000 โดยที่มีการคาดการณ์ มูลค่าการตลาดของพืชกัญชา ในอนาคต สูงถึง 4.6 ล้านล้านบาท
บุรีรัมย์โมเดล
นำความคิดสร้างสรรค์ หาจุดเด่นในการพัฒนาเมือง อย่างเช่นจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อทำให้เป็นเมืองกีฬาและการท่องเที่ยวที่โด่งดัง เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับประชาชน และเป็นการแก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน ซึ่งพรรคมีบุคลากร ที่เคยทำงานจนทุกคนเห็นแล้วว่าเกิดความประสบความสำเร็จมาแล้ว และจะนำแนวคิดการพัฒนาเมืองแบบนี้ไปเผยแพร่ในจังหวัด อื่นๆ ทั่วประเทศ
ทวงคืนกำไรให้ชาวนา
เสนอกฎหมายตั้งกองทุนข้าว ระบบกำไรแบ่งปัน เพิ่มรายได้ให้ชาวนา ยุติความไม่เป็นธรรม ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยนำตัวอย่างจาก อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล มาเป็นต้นแบบ ตั้ง “กองทุนข้าว”ขึ้นมา ทำหน้าที่บริหาร กำหนดโควตาการส่งออก จัดทำประกันภัยความเสี่ยง และบริหารแบ่งปันกำไร โดยกรรมการ 3 ฝ่าย คือ ชาวนา โรงสี พ่อค้า และฝ่ายราชการ ตกลงราคารับซื้อเบื้องต้น ก่อนฤดูกาลเพาะปลูก จากนั้นจะมีการคำนวณต้นทุน และ กำไร ของการผลิตทั้งระบบ แล้วนำผลกำไรมาแบ่งปันอย่างเป็นธรรมซึ่งการผลิตข้าวในระบบมี ชาวนา โรงสี ผู้ค้าข้าว ทั้งในและต่างประเทศ
ดังนั้นชาวนาจะได้รายได้เพิ่มขึ้นจากระบบ “กำไรแบ่งปัน”เพิ่มขึ้นมา ทวงคืนกำไรให้ชาวนา หมดยุค “ชาวนาจน พ่อค้าข้าวรวย” ด้วยกำไรแบ่งปัน โดยที่พรรคภูมิใจไทย จะนำระบบนี้ไปใช้กับพืชชนิดอื่นๆ ด้วย ยาง มันสำปะหลัง อ้อย และปาล์มทะลาย
ทวงคืนกำไรให้ชาวสวนปาล์ม
เปลี่ยนสวนปาล์มเป็นบ่อน้ำมัน สร้างโรงไฟฟ้าน้ำมันปาล์ม ปาล์มทะลาย ก.ก.ละ 5 บาท โดยการส่งเสริมสนับสนุนให้มีการนำพืชที่สามารถผลิตเป็นพลังงานน้ำมันนำมาใช้ในประเทศ เพื่อเพิ่มตลาดและเพิ่มมูลค่าให้กับพืชเศรษฐกิจเหล่านั้น ลดปัญหาการเงินตราไหลออกไปยังต่างประเทศ ลดปัญหามลภาวะ อาทิ ปาล์มน้ำมัน สามารถนำไปผลิตกระแสไฟฟ้า ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ลดปัญหาการเงินตราไหลออกไปยังต่างประเทศ ลดปัญหามลภาวะ สร้างงาน สร้างอาชีพ ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
พัฒนาเขตเศรษฐกิจ จังหวัดชายแดนใต้
เปลี่ยนเสียงระเบิด เป็นเสียงเครื่องจักร เปลี่ยนงบลับ เป็นงบลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ โดยนำพรบ.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ไปใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้หลักคิดว่า เมื่อแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแล้วจะช่วยบรรเทาปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ลงไป
ทำงานที่ออฟฟิศ สัปดาห์ละ 4 วัน
ส่งเสริมให้ภาครัฐและเอกชน จัดให้ข้าราชการหรือพนักงานบริษัทเอกชนในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำงานที่บ้านสัปดาห์ละ 1 วัน โดยมีมาตรการจูงใจทางด้านภาษี สำหรับภาคเอกชน ในการลดปริมาณการจราจรบนท้องถนนของกทม.และปริมณฑล อย่างน้อย ๆ สัปดาห์ละ 1 วัน สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป