สรุปประเด็นดราม่าระหว่าง ‘บุ๋ม ปนัดดา’ & ‘เอ๋ ปารีณา’

ประเด็นน่าสนใจ

จากกรณีดราม่าระหว่าง ดร. บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี นักแสดง และพิธีกรชื่อดัง กับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่มีประเด็นร้อนกันอยู่ ณ ขณะนี้บนโลกออนไลน์ วันนี้ทาง MThai ได้สรุปประเด็นมาให้ผู้อ่านได้เข้าใจเรื่องราวมากยิ่งขึ้น

จุดเริ่มต้นของประเด็นเดือด ‘บุ๋ม ปนัดดา’ & ‘เอ๋ ปารีณา’

สืบเนื่องจาก ‘บุ๋ม ปนัดดา’ ได้โพสต์ข้อความผ่าน IG ส่วนตัว ระบุว่า ได้เป็นสมาชิกคณะอนุกรรมธิการศึกษากระบวนการยุติธรรมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการข่มขืนกระทำชำเรา และการล่วงล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมระบุถึงกรณีที่ถูกคนมาดักรอหน้าสตูดิโอ โดยเหตุการณ์นั้นตำรวจได้เชิญตัวคนดังกล่าวกลับไป แต่กลับมาการโทรศัพท์และข้อความหลายอย่างที่เป็นการคุกคาม

ซึ่งมองว่าการคุกคามทางเพศนั้น เป็นปัญหาที่ผู้หญิงหลายๆคน เคยประสบพบเจอแต่อาจถูกมองข้าม เนื่องจากไม่มีกฎหมายคุ้มครองผู้ถูกกระทำได้อย่างจริงจัง โดย ‘บุ๋ม ปนัดดา’ ระบุว่าได้เสนอในคณะกรรมาธิการเปลี่ยนแปลงกฎหมายข่มขืน ให้มีกฎหมายและโทษที่เป็นคดีอาญาอย่างจริงจัง

‘ปารีณา’ โพสต์ถึง ‘บุ๋ม ปนัดดา’ กรณีกฎหมายข่มข่ม

ซึ่งต่อมา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กว่า “บุ๋ม ปนัดดา อ่านหน่อย ข่มขืนคืออาญามาตั้งนานแล้ว แต่ล่าสุดมีการเพิ่มโทษ ถึงประหารชีวิต” และต่อด้วยว่า “มั่ว พูดอะไรต้องระวัง เพราะเป็นดารา ประชาชนอ่านแล้วจะเข้าใจผิดไปตามได้ ข่มขืน คุกคาม สามารถแจ้งความเพื่อดำเนินคดีอาญาได้ค่ะ ถึงอย่างไรก็ตองขอชื่นชมดารามากความสามารถ พิมผิด ดารามากสามีในความตั้งใจที่ ………”

บุ๋ม-ปนัดดา ก็ได้ออกมาโพสต์ตอบโต้ ว่า

“เข้าโซเชียลด้วยความมึนงง เมื่อ ส.ส. ท่านหนึ่งพาดพิงถึง อยากเรียนให้ทราบว่า ก่อนจะมาแซะบุ๋ม #อย่าอ่านแต่พาดหัว ทุกคนทราบค่ะ ว่าคดีข่มขืนเป็นคดีอาญา แต่ที่พวกเราพยายามผลักดันคือ คดีคุกคามก่อกวน ที่ยังไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เช่น Stalker ไล่ตามผู้หญิงทั้งมีชื่อเสียงและไม่มี มันเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิต กว่าจะมีกฎหมายออกมาแต่ละอย่างออกมาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องมองให้ครบทุกด้าน แต่เวลาที่มีผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้มีประสบการณ์ ทำงานหลากหลายอาชีพที่เกี่ยวข้องมารวมตัวกัน มันทำให้ทุกอย่างไม่ยากเกินไปเพราะเป้าหมายคือความถูกต้องและผลประโยชน์ของประชาชน
.
ส่วนตัวบุ๋มเองที่ต้องทำงานกับ 3 คณะ อย่างน้อยเกือบสองวันที่หายไปจากรายการทีวี มันคืองานที่ได้เงินเห็นๆ แต่บุ๋มคิดว่า ถ้ามันทำให้ผู้หญิงและเยาวชนปลอดภัยขึ้นได้ บุ๋มว่ามันคุ้ม! คุ้มที่ได้เกิดมาแล้วมีประโยชน์ต่อประชาชน ดังนั้นบุ๋มจึงไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมานั่งทะเลาะกับใคร ถ้าไม่ฉลาดให้อยู่เงียบๆ เดี๋ยวทำบุญไปให้”

ตอบโต้เดือด จนเกิดแฮชแท็ก #ถ้าไม่ฉลาดให้อยู่เงียบๆ

ซึ่งภายหลัง บุ๋ม-ปนัดดา โพสต์ข้อความดังกล่าวไป ทางด้าน ‘ปารีณา’ ก็ได้ออกมาตอบโต้ด้วยถ้อยคำรุนแรง ตลอดทั้งวัน จน บุ๋ม-ปนัดดา ได้โพสต์ตอบกลับโดยระบุว่า

เข้าโซเชียลด้วยความมึนงง เมื่อส.ส.ท่านหนึ่งพาดพิงถึง อยากเรียนให้ทราบว่า ก่อนจะมาแซะบุ๋ม #อย่าอ่านแต่พาดหัว ทุกคนทราบค่ะ ว่าคดีข่มขืนเป็นคดีอาญา แต่ที่พวกเราพยายามผลักดันคือ คดีคุกคามก่อกวน ที่ยังไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น เช่น Stalker ไล่ตามผู้หญิงทั้งมีชื่อเสียงและไม่มี มันเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิต

กว่าจะมีกฎหมายออกมาแต่ละอย่างออกมา ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องมองให้ครบทุกด้าน แต่เวลาที่มีผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้มีประสบการณ์ ทำงานหลากหลายอาชีพที่เกี่ยวข้องมารวมตัวกัน มันทำให้ทุกอย่างไม่ยากเกินไปเพราะเป้าหมายคือความถูกต้องและผลประโยชน์ของประชาชน

ส่วนตัวบุ๋มเองที่ต้องทำงานกับ 3 คณะ อย่างน้อยเกือบสองวันที่หายไปจากรายการทีวี มันคืองานที่ได้เงินเห็นๆ แต่บุ๋มคิดว่า ถ้ามันทำให้ผู้หญิงและเยาวชนปลอดภัยขึ้นได้ บุ๋มว่ามันคุ้ม! คุ้มที่ได้เกิดมาแล้วมีประโยชน์ต่อประชาชน ดังนั้นบุ๋มจึงไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมานั่งทะเลาะกับใคร

ถ้าไม่ฉลาดให้อยู่เงียบๆ #เดี๋ยวทำบุญไปให้

ซึ่งล่าสุดทาง บุ๋ม-ปนัดดา ได้ออกมาระบุว่า เตรียมจะฟ้องกลับ เอ๋-ปารีณา ไกรคุปต์ แล้ว ฐานหมิ่นประมาทแล้ว พร้อมย้ำอีกว่าจะฟ้องไม่ถอยแน่นอน เช่นเดียวกับทางด้าน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ก็เตรียมฟ้องกลับเช่นเดียว

ทั้งนี้ประเด็นดราม่าระหว่าง บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี กับ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ดูท่าว่าจะยังคงดราม่าต่อเนื่อง หากมีความคืบหน้าอย่างไรทางทีมข่าว MThai จะรายงานให้ทราบต่อไป