วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ อนุทิน ชาญวีรกูล

อนุทิน ให้เลื่อนฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เร็วขึ้น เป็นวันนี้ – 31 ส.ค. 63

วันนี้ (8 พฤษภาคม 2563) ที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีมอบวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ และได้เผยว่า เลื่อนการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนฟรีเร็วขึ้นเป็นวันนี้ จากเดิมจะเริ่มมิถุนายน…

Home / NEWS / อนุทิน ให้เลื่อนฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เร็วขึ้น เป็นวันนี้ – 31 ส.ค. 63

วันนี้ (8 พฤษภาคม 2563) ที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีมอบวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ และได้เผยว่า เลื่อนการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนฟรีเร็วขึ้นเป็นวันนี้ จากเดิมจะเริ่มมิถุนายน

มีวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง จำนวน 4.11 ล้านโด๊ส

นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่กระทรวงสาธารณสุขจัดหาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ โดยสำหรับบุคลากรการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี จำนวน 5,000 โด๊ส และให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง จำนวน 4.11 ล้านโด๊ส บุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 4.1 แสนโด๊ส

และเลื่อนการรณรงค์ให้เร็วขึ้นเป็นวันนี้จนถึง 31 สิงหาคม 2563 จากเดิมที่จะเริ่มฉีดวัคซีนในเดือนมิถุนายน เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคทันต่อสถานการณ์โรคโควิด 19 ซึ่งเป็นโรคที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ ลดการป่วย ลดความรุนแรง ลดการเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่

“กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญในการดูแลสุขภาพประชาชนและมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ในขณะปฏิบัติงานได้ทุกสายพันธุ์ หากบุคลากรเจ็บป่วยจะเกิดผลกระทบกับการให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่อาจมีการระบาดของโรค COVID-19 เนื่องจากตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ทุกคนได้ร่วมกันทำงานอย่างหนัก ห้องปฏิบัติการตรวจตัวอย่างจากผู้ป่วยนับหมื่นๆ ราย ส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและรักษาพยาบาลอย่างดี” นายอนุทินกล่าว

ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง อย่าลืมไปฉีดวัคซีน ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รณรงค์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 4.11 ล้านโด๊ส ให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป, เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี, ผู้มีโรคเรื้อรัง (ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ในระหว่างได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน), บุคคลอายุ 65 ปีขึ้นไป, ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้, โรคธาลัสซีเมีย และผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ และผู้ที่เป็นโรคอ้วน