ประชุมสภา พ.ร.ก.กู้เงิน ร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ

ประชุมสภาฯ อภิปรายร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ [28 พ.ค.63]

บรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่สอง (28 พ.ค.63) เพื่อพิจารณาพระราชกำหนดกู้เงิน 3 ฉบับ วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลออกมาเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ล่าสุด เข้าสู่การพิจารณาแล้ว โดยให้อภิปรายพระราชกำหนดทั้ง 3…

Home / NEWS / ประชุมสภาฯ อภิปรายร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ [28 พ.ค.63]

ประเด็นน่าสนใจ

  • วันนี้ (28 พ.ค.63) เป็นวันที่สอง ในการการอภิปรายพิจารณาพระราชกำหนดกู้เงิน 3 ฉบับ วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท
  • ด้าน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายชื่นชมนายกฯ แก้ปัญหาโควิด-19 ได้ดี
  • นายกรัฐมนตรี แจงเหตุที่ต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระบุรัฐบาลต้องการให้การทำงานนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

บรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่สอง (28 พ.ค.63) เพื่อพิจารณาพระราชกำหนดกู้เงิน 3 ฉบับ วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลออกมาเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ล่าสุด เข้าสู่การพิจารณาแล้ว โดยให้อภิปรายพระราชกำหนดทั้ง 3 ฉบับไปในคราวเดียว เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน แต่ลงมติแยกกัน

‘อนุทิน’ ยืนยัน ระบบสาธารณสุขไทยอยู่เหนือมาตรฐานองค์การอนามัยโลก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวชี้แจงที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า นับตั้งแต่มีข่าวการระบาดโควิด-19 ช่วงปลายเดือน ธ.ค. 2562 สธ. กรมควบคุมโรค ได้ตั้งทีมป้องกันคัดกรองผู้ที่เข้าสู่ประเทศไทย และใช้ช่วงหยุดสิ้นปีเตรียมทุกอย่างให้พร้อม

โดยเมื่อเปิดมาวันที่ 3 ม.ค. 2563 มีการคัดกรองผู้ที่เข้ามายังประเทศไทยในจุดสำคัญ เช่น สนามบิน ท่าเรือ และประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกที่ประกาศว่าพบผู้ป่วยโควิด-19 นอกประเทศจีน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจีนรายแรกที่เดินมายังประเทศไทย ได้ทำการรักษาจนหายดีและส่งกลับประเทศ โดยถือว่าเป็นประโยชน์ของประเทศไทย เพราะหลังจากนั้น เราได้รับการช่วยเหลือจากประเทศจีนเป็นอย่างดี ทั้งเวชภัณฑ์ ยา และข้อมูลต่างๆ จากประเทศจีนมาตลอดจนถึงทุกวันนี้

ทั้งนี้การติดเชื้อในสถานที่ต่างๆ รัฐบาลได้ออกมาตรการต่างๆ มาควบคุม เช่น ที่สนามมวย โดยสามารถสอบสวนโรค นำผู้ติดเชื้อกลับมารักษาทุกคน และขณะนี้กลับบ้านได้หมดแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่า ระบบการรักษาของระบบสาธารณสุขไทยอยู่เหนือมาตรฐาน ที่องค์การอนามัยโลก (who) ได้กำหนดไว้

ส.ส.พปชร อภิปรายชื่นชมนายกฯ แก้ปัญหาโควิด-19 ได้ดี

นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายชื่นชมนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในฐานะผู้บริหาร ศบค. แม้จะใช้งบประมาณล่าช้าไปบ้าง แต่ถือว่าเป็นการใช้งบประมาณในช่วงระยะเวลาที่พอเหมาะ ส่วนในแง่การป้องกันการระบาดจากมีผู้ติดเชื้ออันดับ 2 รองจากประเทศจีน และได้ร่นระยะไปปัจจุบันไทยติดเชื้อกว่า 3 พันคน เสียชีวิต 57 คน อยู่ในลำดับที่ 77 ของโลกแล้ว

ทางด้านนางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส.สุโขทัย พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายสนับสนุนพระราชกำหนดทั้ง 3 ฉบับ ในการนำมาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ พร้อมกับชื่นชม ศบค. โดยการนำของนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับคำชื่นชมระดับโลก รวมถึงพี่น้องประชาชนคนไทยทุกภาคส่วน ร่วมกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหานี้

ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ชี้รัฐบาลควรเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจใหม่

นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล อภิปราย พรก.กู้เงิน 3 ฉบับ ว่า นอกจากความท้าทายของรัฐบาลในการบริหารจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว ยังเป็นความท้าทายของสภาผู้แทนราษฎรที่จะทำการตรวจสอบ การใช้เงินของรัฐบาลว่า มีประสิทธิภาพ รวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ความเดือดร้อนของประชาชนหรือไม่ เพราะประชาชนและระบบเศรษฐกิจคือผู้ที่แบกรับต้นทุนในการใช้อำนาจทางกฎหมายและนโยบายปิดเมืองของรัฐบาล

ซึ่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ก็เห็นการบริหารของรัฐบาลมาแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของการเยียวยาประชาชน ที่มีความล่าช้า ผิดพลาด และไม่มีประสิทธิภาพจากการใช้ระบบเอไอ ไม่สมกับที่รัฐบาลประกาศไว้ว่าเป็นรัฐบาลติจิทัล 4.0 สะท้อนให้เห็นการบริหารงานของรัฐบาล ที่มีความล่าช้า ไม่ครอบคลุม ไม่รัดกุมและไม่โปร่งใส

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีควรรีบเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจ เฉพาะในส่วนของกระทรวงการคลัง จะทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลดีขึ้น หรือจะให้ดีกว่านี้ควรเป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชนบนกติกาที่ถูกต้องและมีความเป็นมืออาชีพในการบริหารงานมากกว่านี้

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงทำไมต้องมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ ในวันที่ 2 ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่องการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า รัฐบาลต้องการให้การทำงานนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันเพราะ พ.ร.บ.ควบคุมโรคไม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นระบบ แต่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้รัฐบาลคล่องตัวในการสั่งการ และทำให้ตัวเลขของผู้ติดเชื้อลดลง หากไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็จะอลหม่าน แล้วใครจะรับผิดชอบสุดท้ายก็จะโทษมาที่รัฐบาล

ทั้งนี้รัฐบาลพิจารณาอย่างรอบคอบ และใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเฉพาะจำเป็นเท่านั้น จึงขอให้เข้าใจว่ามีมาตรการเบาไปหาหนัก ไม่ได้ใช้พร่ำเพรื่อ รัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนจำนวนมาก ไม่ได้ห้ามการเดินทางไปไหนมาไหน ไม่มีใครอยากใช้กฎหมาย แต่คนเราจะปฏิเสธกฎหมายไม่ได้ มีมาตราหนึ่งบอกไว้ว่า คนไทยทุกคนต้องปฏิบัติและเคารพกฏหมาย จะอ้างว่า ไม่รู้กฎหมายไม่ได้ รัฐบาลทุกรัฐบาลก็ผ่อนผันกันมาแต่บางเรื่องก็ปล่อยไปไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายได้