น้องเติม มุทิตา เสนคราม โควิด-19

ชีวิตต้องสู้! แข้งสาวฟุตซอลทีมชาติไทย ขายน้ำแข็งใส-เดินขายหวย สู้พิษ COVID-19

น.ส.มุทิตา เสนคราม หรือ ‘น้องเติม’ นักฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย วัย 23 ปี ผู้เล่นในชุดคว้าแชมป์ซีเกมส์ และเหรียญทองเอเชียนอินดอร์เกมส์ 2560 เจอพิษ COVID-19 เล่นงานหนัก เนื่องจากฟุตซอลลีกไม่สามารถจัดแข่งขันได้…

Home / NEWS / ชีวิตต้องสู้! แข้งสาวฟุตซอลทีมชาติไทย ขายน้ำแข็งใส-เดินขายหวย สู้พิษ COVID-19

ประเด็นน่าสนใจ

  • ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบทุกภาคส่วน รวมถึงแวดวงกีฬา
  • ’น้องเติม’ นักฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย ชุดคว้าแชมป์ซีเกมส์ 60 ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว
  • เนื่องจากไม่มีรายการแข่งขัน ทำให้ต้องดิ้นรนเดินขายหวย และขายน้ำแข็งใสเลี้ยงชีพในช่วงวิกฤตโควิด

น.ส.มุทิตา เสนคราม หรือ ‘น้องเติม’ นักฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย วัย 23 ปี ผู้เล่นในชุดคว้าแชมป์ซีเกมส์ และเหรียญทองเอเชียนอินดอร์เกมส์ 2560 เจอพิษ COVID-19 เล่นงานหนัก เนื่องจากฟุตซอลลีกไม่สามารถจัดแข่งขันได้ ต้องหารายได้ด้วยการเดินขายหวย และขายน้ำแข็งใสให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตเช่นนี้ไปให้ได้

น้องเติม เปิดเผยกับทีมข่าว MThai ว่า ด้วยความรักในการเล่นฟุตซอล ใจก็อยากจะทำให้เป็นอาชีพ หากมีการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง รายได้ที่เข้ามาก็ยังจะสามารถทำให้ตนเองเดินตามความฝันที่รักต่อไปได้ เพราะการที่จะไปหางานประจำทำ โดยที่ยังสามารถเล่นฟุตซอลไปด้วยคงทำได้ยาก เพราะบริษัทส่วนใหญ่กำหนดให้ทำงานเต็มเวลา

โดยช่วงวิกฤตโควิด-19 ทำให้ไม่มีรายการแข่งขัน รายได้ก็ไม่มี ตนได้รู้จักกับคนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันที่สามารถจะขอแบ่งล็อตเตอรี่มาขายได้ จึงเริ่มนำมาใส่แผงเดินขาย ซึ่งเริ่มเดินตั้งแต่แถวที่พัก บริเวณแฮปปี้แลนด์สาย 1 เดินไปเรื่อยๆ ผ่านไปทางถนนนวมินทร์เข้าซอยลาดพร้าว 101 และเดินจนวนกลับมาถึงซอยลาดพร้าว 107 เคยเดินมากที่สุดก็คือกว่า 26,000 ก้าว คิดเป็นระยะทางก็ประมาณ 16 กิโลเมตร หากงวดไหนขายได้หมดก็จะได้กำไรราวๆ 6,000 บาท

งวดนี้ไม่ได้เดินขายหวย เพราะคนที่รู้จักไม่มีเงินไปซื้อโควต้าจากยี่ปั้ว ประกอบกับช่วงที่ตนเคยเดินขายผ่านตลาดในซอยลาดพร้าว 107 เห็นที่ว่าง จึงชักชวนเพื่อนที่อยู่ด้วยกันพร้อมกับครอบครัวของเขา มาเช่าแผงค้าเพื่อที่ขายน้ำแข็งใส และครอบครัวของน้องที่ตนอยู่ด้วยกันเปิดร้านขายส้มตำ ไก่ย่าง อยู่แผงติดกัน ซึ่งถือเป็นความโชคดีในความโชคร้ายคือครอบครัวน้องที่ตนอาศัยอยู่ด้วยกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันดีมาก ค่าเช่าบ้านก็ช่วยกันหาร มีงานก็ชวนกันไปทำ

น้องเติม กล่าวทิ้งท้ายว่า “คงกัดฟันใช้ชีวิตอย่างนี้ไปให้ถึงสิ้นปี ตามความฝันให้สุด แต่ถ้ามันไม่ดีขึ้น คงต้องตัดใจ หางานประจำทำ และยอมรับความจริงกับชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไป”