25 เม.ย. 63 นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (25 เม.ย.63) มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 26 จังหวัด รวม 149 อำเภอ 793 ตำบล 4 เทศบาล 6,918 หมู่บ้าน/ชุมชน แยกเป็นภาคดังต่อไปนี้
26 จังหวัด เขตภัยแล้ง
ภาคเหนือ 7 จังหวัด
- ได้แก่ เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย เพชรบูรณ์ และเชียงใหม่ รวม 42 อำเภอ 206 ตำบล 1,703 หมู่บ้าน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด
- ได้แก่ หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และศรีสะเกษ รวม 70 อำเภอ 406 ตำบล 2 เทศบาล 3,772 หมู่บ้าน
ภาคกลางและภาคตะวันออก 8 จังหวัด
- ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และจันทบุรี รวม 36 อำเภอ 170 ตำบล 1 เทศบาล 1,385 หมู่บ้าน/ชุมชน
ภาคใต้ 1 จังหวัด
- สงขลา รวม 1 อำเภอ 11 ตำบล 1 เทศบาล 58 หมู่บ้าน/ชุมชน
ปภ. ระดมสรรพกำลังช่วยเหลือ
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยระดมสรรพกำลัง เครื่องจักรกล ยานพาหนะ และอุปกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงของพื้นที่ ทั้งการสูบส่งน้ำ การขุดบ่อน้ำตื้น การขุดบ่อน้ำบาดาล การเป่าล้างบ่อบาดาลและจัดรถบรรทุกน้ำนำน้ำไปเติมยังถังน้ำกลางประจำหมู่บ้านและจุดแจกจ่ายน้ำตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดฤดูแล้ง
รณรงค์ให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด
ตลอดจนรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนเกษตรกรให้ปรับวิถีทำการเกษตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ท้ายนี้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยแล้งสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป