พายุฤดูร้อน ช่วยบรรเทาวิกฤตหมอกควัน ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ทำค่าฝุ่นพิษลดไปเกือบครึ่ง เครือข่ายฯ แนะอย่าชะล่าใจ ยื่นข้อเสนอต่อผู้ว่าฯ แก้ปัญหา 3 ระยะ
ผู้สื่อข่าว MThai รายงานว่า สถานการณ์ฝุ่น-ควัน ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่วันนี้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก หลังจากระยะเวลากว่า 8 วันค่าฝุ่นละออง PM. 2.5 พุ่งสูงจนติดอันดับโลก
โดยสาเหตุที่สถานการณ์ฝุ่นพิษลดลงนั้นเป็นเพราะ เมื่อคืนที่ผ่านมาหลายอำเภอมีฝนตกและกระแสลมพัดผ่านจากอิทธิพลของพายุฤดูร้อน ทำให้วิกฤตมลพิษทางอากาศที่ปกคลุมมานานกว่าสัปดาห์ผ่นคลายไปในทางที่ดีีขึ้น
ซึ่งค่า PM 2.5ที่วัดในวันนี้ ได้ประมาณ 68 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีค่าเกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์ สร้างความโล่งใจให้กับชาวเชียงใหม่ที่ได้กลับมาได้รับอากาศบริสุทธิ์อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสัญญาณที่ดี แต่เครือข่ายแก้ไขปัญหาหมอกควันเชียงใหม่ ที่เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มนักวิชาการและภาคประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ มองว่าหน่วยงานภาครัฐไม่ควรชะล่าใจ เพราะนี่ยังเป็นเพียงช่วงเวลาเริ่มต้นของการเผาป่าและเผาเพื่อปรับพื้นที่ทางการเกษตร
โดยช่วงสายวันนี้ ตัวเแทนเครือข่ายเข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อสิทธิการหายใจของคนเชียงใหม่ และ แนวทางแก้ไขปัญหาหมอกควันกับนายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มีประเด็นสำคัญทั้งการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และ ระยะยาว
เช่น การประกาศเป็นวาระเร่งด่วนของจังหวัด , สร้างเครือข่ายออนไลน์สำหรับแจ้งเหตุการเผาและระดมคนในพื้นที่เข้าสนับสนุนในการดับไฟป่า , ลดค่าโดยสารรถสาธารณะ , กำหนดให้รถยนต์เข้าสู่เขตเมืองสลับวันคู่คี่ตามหมายเลขทะเบียน ,
จัดการการเผาอย่าเป็นระบบในช่วง 8 เดือน พ.ค. – ธ.ค. เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤตในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. และ ผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติและจัดทำแผนระยะ 10 ปี เป็นต้น
ขณะที่นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ระบุ จะนำข้อเสนอไปรับใช้ พร้อมเตรียมจัดเวที “เชียงใหม่ฟอรั่ม” ระดมความเห็นจากทุกภาคส่วนในจังหวัดเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้จะยังคงเดินหน้าทุกมาตรการไปจนกว่าวิกฤตจะคลี่คลาย โดยมั่นใจว่าสถานการณ์จะดีขึ้นตามลำดับ
อันตราย ฝุ่น PM2.5
ฝุ่นละออง PM2.5 เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ หรือผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด หากสูดดมเข้าไปนานๆ อาจสร้างความเสียหายต่อประสิทธิภาพด้านการคิดและสติปัญญา
เพิ่มความเสี่ยงให้เป็นโรคความเสื่อมถอยต่างๆ ได้ เช่น โรคอัลไซเมอร์ หรือภาวะสมองเสื่อม เป็นต้น ดังนั้น การป้องกันตัวเองให้ได้รับกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 น้อยที่สุดขั้นแรกก็คือการการสวมหน้ากากอนามัย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นอะไรก็สามารถได้ทั้งนั้นดีกว่าไม่ป้องกันเลย