กระทรวงพาณิชย์ ข่าวสดวันนี้ หน้ากากอนามัย

จุรินทร์ เข้ม! จับมือ สธ.-โรงงาน ลุยผลิตหน้ากากอนามัย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการหน้ากากอนามัย หลังจากพบว่าในขณะนี้มีการขาดแคลนอย่างหนักไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ภายหลังการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 โดยนายจุนิทน์ กล่าวว่า ขณะนี้โรงงานผลิต 11 โรง มีกำลังการผลิต รวม 36…

Home / NEWS / จุรินทร์ เข้ม! จับมือ สธ.-โรงงาน ลุยผลิตหน้ากากอนามัย

ประเด็นน่าสนใจ

  • เล็งส่ง จนท. เข้าไปคุมการผลิต เพื่อความชัเจนในการผลิต
  • การส่งออกหน้ากากอนามัยต้องขออนุญาต ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกแค่ชิ้นเดียว
  • รวบรวมข้อมูลผู้ค้าโพสต์ขายหน้ากากอนามัยเกินราคาแล้ว เล็งส่งต่อดำเนินคดี
  • ขู่โทษสูงสุดคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 4 แสน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการบริหารจัดการหน้ากากอนามัย หลังจากพบว่าในขณะนี้มีการขาดแคลนอย่างหนักไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ภายหลังการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19

โดยนายจุนิทน์ กล่าวว่า ขณะนี้โรงงานผลิต 11 โรง มีกำลังการผลิต รวม 36 ล้านชิ้นต่อเดือน ถ้าจะให้เร่งการผลิต ก็สามารถดำเนินการได้ถึง 38 ล้านชิ้นต่อเดือน เพราะมีวัตถุดิบเพียงพออยู่ ดังนั้น มาตรการที่กำหนดร่วมกันในการประชุมวันนี้ คือ

กระทรวงพาณิชย์
  1. กระทรวงพาณิชย์จะส่งตัวแทนเข้าไปประจำอยู่ที่โรงงาน เพื่อรับแจ้งปริมาณการผลิตและกำกับดูแลในเรื่องของสต๊อกให้ได้ตัวเลขที่ชัดเจน และตัวเลขการผลิตทั้งหมดนั้นจะส่งมาที่ศูนย์กระจาย หน้ากากอนามัย ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนของกรมการค้าภายใน และตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุข

    ส่วนในเรื่องของต้นทุนการผลิตนั้นกรมการค้าภายในจะเข้าไปช่วย ถ้ามีต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจริง โดยดูจากต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าและองค์ประกอบอื่นๆ ก็จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อที่จะเข้าไปช่วยเหลือต่อไป เพื่อให้เดินหน้าผลิตต่อได้ในราคาที่กำหนดคือชิ้นละ 2.50 บาท
  2. การกระจาย หน้ากากอนามัย จะมีการจัดตั้งศูนย์กระจายหน้ากากอนามัยสำหรับการจัดสรรหน้ากากอนามัยไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้

    ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเข้าใจว่า หน้ากากไปยังกระทรวงสาธารณะสุขแล้ว 350,000 ชิ้นต่อวัน รวม 3,450,000 ชิ้น แต่จากนี้ไปจะแก้ปัญหาเรื่องการบริหารจัดการในการกระจายหน้ากากอนามัยไปยังโรงพยาบาลต่างๆ

    เพราะในส่วนของสมาคมโรงพยาบาลเอกชนแจ้งว่า ยังมีปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการ จะให้กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการทบทวนตัวเลข และหารือร่วมกับสถานพยาบาลทุกสังกัด แล้วนำตัวเลขมาบริหารจัดการร่วมกัน ในศูนย์กระจายหน้า กากอนามัย
  3. การส่งออก ได้ลงนามประกาศว่า จากนี้ไปการส่งออกหน้ากากอนามัยจะต้องขออนุญาตทุกกรณี แม้จะนำออกชิ้นเดียวก็ต้องขออนุญาต ยกเว้นผู้ป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ที่เดินทางไปต่างประเทศ และมีความจำเป็นที่จะต้องมีผ้า หน้ากากอนามัย เป็นกรณียกเว้นเท่านั้น ส่วนการขออนุญาตนำหน้ากากอนามัย ที่ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องให้ส่งออกได้
  4. การดำเนินคดีได้รับแจ้งจากท่านปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานวอร์รูมว่าได้ดำเนินคดีกับผู้ที่จำหน่ายหน้ากากอนามัยราคาแพงเกินสมควรไปแล้ว 31 คดีและกรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคาไปอีก 20 คดีรวมเป็น 51 คดี

    กรณีขายเกินราคานั้นจะมีโทษจำคุก 7 ปีปรับ 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับซึ่งทั้ง 31คดีได้ส่งเรื่องให้สอบสวนและส่งเรื่องให้อัยการดำเนินการต่อไป และถ้ามีกรนีขายที่หน้าร้านระบบออฟไลน์ 46 คดีและคดีออนไลน์ 5 คดีที่ได้ดำเนินการส่งคณะกรรมการสอบสวนไป

    กรณีคดีออนไลน์ที่มีการประกาศขายขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์จะขอความร่วมมือจากกระทรวงดีอี ในการที่จะเข้าไปสืบค้นการโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อจัดการกับผู้ที่กระทำผิดที่ขายในราคาแพงเกินควร และกรณีของแพลตฟอร์มต่างๆ ที่เป็นแหล่งที่ทำให้ผู้ขายหน้ากากอนามัยเกินราคามาโพสต์จะดำเนินคดีด้วย
  5. มาตรการให้การช่วยเหลือเพื่อให้กระบวนการผลิตและการกระจายหน้ากากอนามัยสามารถดำเนินการให้ราบลื่นที่สุดภายใต้กำลังการผลิตวันละประมาณ 1,000,000 ชิ้น
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์
  • ประการที่หนึ่งเมื่อรัฐบาลประกาศควบคุมราคา 2.50 บาทในส่วนที่เป็นภาระของภาคเอกชนผมจะเสนอคณะรัฐมนตรีให้รัฐบาลได้ช่วยแบ่งเบาภาระส่วนเกินเพื่อให้ยังสามารถจำหน่ายในราคา 2.50 บาทได้
  • ประการที่สอง หากเอกชนรายใดประสงค์นำเข้าเครื่องจักรเพื่อผลิตหน้ากากอนามัยเพิ่มเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงนี้หรือต้องการผลิตฟิวเตอร์ ซึ่งถือว่าเป็นชิ้นส่วนสำคัญชิ้นหนึ่งของหน้ากากอนามัยที่เป็นตัวกรอง จะหารือกับคณะรัฐมนตรีพรุ่งนี้ทันทีว่าจะมีมาตรการในการช่วยเหลือสนับสนุนหรือส่งเสริมได้อย่างไร รวมทั้งส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง
  • ประการที่สาม ในเรื่องของหน้ากาก ทางเลือกเดิมที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดดำเนินการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภูมิภาค ได้เร่งผลิตก็จะขอให้กระทรวงสาธารณสุข

    ได้ช่วยเน้นในการประชาสัมพันธ์ว่า หน้ากากผ้าสามารถเป็นหน้ากากทางเลือกที่จะช่วยป้องกันโควิด-19 ได้เพื่อช่วยเป็นทางเลือกอีกทางของพี่น้องประชาชน และวันพรุ่งนี้จะนำเรื่องนี้หารือกับคณะรัฐมนตรีต่อไป