ประเด็นน่าสนใจ
- เกิดเหตุ ตร. จับ ตร. หน้าโรงพัก สภ.พัทยา เมืองวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา
- สาเหตุจาก ตร.กลุ่มนี้มีพฤติการณ์ อุ้มเหยื่อเข้าเซฟเฮาส์รีดเงิน-ปลดทรัพย์แลกปล่อยตัวคดียาเสพติด
- หลังจับกุมได้มีการตั้งข้อหา พร้อมให้ออกจากราชการพร้อมส่งตัวดำเนินคดี
- ด้าน ผบ.ตร.กำชับทำคดีตรงไปตรงมา เอาผิดให้ถึงที่สุด
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณี สื่อได้นำเสนอเกี่ยวกับ “การบุกจับ ‘ร.ต.อ.’ หน้าโรงพัก ร่วม 4 ตำรวจบ้าน อุ้มเหยื่อเข้าเซฟเฮาส์รีดเงิน-ปลดทรัพย์แลกอิสรภาพ” ในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี ว่า
ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองพัทยา ว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีผู้เสียหาย ชาย อายุ 22 ปี ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 26 ก.พ.63 เวลาประมาณ 21.30 น. ตนกับหญิงสาว อายุ 20 ปี ได้ขับรถยนต์มาจอดบริเวณหน้าสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ถนนชัยพฤกษ์ หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี
จากนั้นได้มีกลุ่มชายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาแสดงตัวและร่วมทำการตรวจค้นตัวและรถของผู้เสียหาย โดยแจ้งว่าเป็นชุดปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยมีการเรียกทรัพย์สินเพื่อแลกกับการปล่อยตัวไม่ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ การสืบสวนสอบสวนขยายผล ทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดขณะนี้พบ 6 ราย คือ 1. นายธันยกร โบศรี ,2. นายสุริยา อ่อนหมื่นไวย ,3. นายสุทธิพงศ์ หวังแก้ว ,4. ร.ต.อ.วุฒิกรณ์ ปลอดโปร่ง รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา ,5. นายสีหรัตน์ รัตนวิจิตร ,6. นายฉลุย แสนฟู
โดยพนักงานสอบสวนได้ขออนุญาตศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 6 ราย ในข้อหา ซ่องโจร,ร่วมกันกรรโชกทรัพย์,ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อเสรีภาพ ,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
ต่อมาเมื่อวันที่ 7 มี.ค.63 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบผู้ต้องหา 5 ราย (1,2, 4 -6) ที่ สภ.เมืองพัทยา และได้ทำการได้จับกุมตัว ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนของรายที่ 3 อยู่ระหว่างการออกติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดย พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี จะมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พร้อมมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว และดำเนินคดีอาญาและทางวินัย อย่างเด็ดขาดตามขั้นตอนต่อไป
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่ง ปลดออก ไล่ออก เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปกระทำผิดกฎหมาย มาโดยตลอด ไม่มีการปกป้องหรือให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา เร่งทำการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่สนับสนุนหรือที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่กระทำความผิดกฎหมายเสียเอง
เรื่องอย่างนี้ต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เสื่อมเสียชื่อเสียงขององค์กรและขอยืนยันว่าจะไม่มีการปกป้องตำรวจที่กระทำความผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ต้องรับโทษมากกว่าบุคคลธรรมดา
ซึ่งที่ผ่านมาได้มีข้อสั่งการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้กระทำผิดกฎหมายหรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายเสียเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้ามไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อีกทั้งยังได้มอบนโยบายในการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวในเรื่องของยาเสพติดอยู่แล้ว เช่น
โครงการตำรวจสีขาว และตามคำสั่ง ตร. ที่ 1212/2537 ให้ผู้บังคับบัญชาสอดส่องดูแลความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ทั้งในเวลาราชการและนอกราชการ ซึ่งอาจมีพฤติการณ์เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระทำผิดกฎหมาย หากปล่อยปละละเลยก็จะพิจารณาโทษผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องตามลำดับชั้น