ประเด็นน่าสนใจ
- การตายของพวกมันเกิดจากฝีมือพรานป่า ล่าเพื่อเอาเนื้อและหนัง
- การสูญเสียครั้งนี้ส่งผลทำให้เหลือยีราฟขาวเพียงตัวเดียวเท่านั้น
- ด้าน จนท. เร่งล่าผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอิสฮัคบินี ฮิโรลา ในเมืองการิสซา ทางตะวันออกของเคนยา ออกแถลงการณ์ระบุว่า ยีราฟขาวเพศเมียเพียงตัวเดียวที่เหลืออยู่ พร้อมลูกน้อยอีก 1 ตัว ถูกกลุ่มพรานฆ่าตายแล้ว
โดยเจ้าหน้าที่พบโครงกระดูกของยีราฟขาวแม่-ลูก ซึ่งเป็นสัตว์หายาก ไม่ค่อยพบในที่อื่นๆ ของโลก และคาดว่าพวกมันน่าจะถูกฆ่าตายอย่างน้อย 4 เดือนแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุว่าเป็นฝีมือของพรานคนใด แต่จะเร่งสืบสวนให้พบผู้ก่อเหตุ
ทำให้เคนยาเหลือยีราฟขาวเพศผู้เพียง 1 ตัว ซึ่งเป็นลูกของยีราฟขาวเพศเมียตัวสุดท้ายที่เพิ่งตาย สำหรับผิวสีขาวของยีราฟขาวเหล่านี้ ไม่ได้เกิดจากภาวะผิวเผือก (albino) แต่เกิดจากภาวะด่าง (leucism) ซึ่งเป็นความผิดปกติของสูญเสียเม็ดสีในสัตว์ พวกมันจึงมีตาสีดำ ต่างจากสัตว์เผือกที่ส่วนใหญ่จะมีตาสีแดง
ขณะที่มูลนิธิสัตว์ป่าแอฟริกา ระบุว่า ราว 40% ของประชากรยีราฟหายไปในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา จากการลักลอบล่าเพื่อเอาเนื้อและหนังของพวกมัน