เป่าแอลกอฮอล์ ไวรัสโควิด-19

ตร. ยันเครื่องตรวจแอลกอฮอล์ ไม่ติดโควิด-19 ขอปชช.มั่นใจ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อมวลชนและสังคมโซเชียลมีเดียตั้งประเด็นคำถามถึงมาตรการการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงที่มีการเฝ้าระวังและป้องกันการติดเชื้อไวรัส COVID-19 จากกรณีสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ที่มีการระบาดนั้น ทำให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังและกังวลในเรื่องการติดเชื้อดังกล่าว จึงอาจทำให้เกิดปัญหาไม่กล้าเป่าลมหายใจผ่านเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ตรวจวัดตามจุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่ต่างๆ…

Home / NEWS / ตร. ยันเครื่องตรวจแอลกอฮอล์ ไม่ติดโควิด-19 ขอปชช.มั่นใจ

ประเด็นน่าสนใจ

  • เหตุใช้หลอดใหม่ทุกครั้งในการเป่า และทำความสะอาด เครื่อง ด้วยแอลกอฮอล์ 70% ก่อนและหลังเป่า
  • วอนขอความร่วมมือหากเจอเรียกตรวจ เพราะเน้นเฉพาะผู้ขับขี่ที่มีกลิ่นสุราหรือพูดจาลักษณะคล้ายคนเมาสุราเท่านั้น

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อมวลชนและสังคมโซเชียลมีเดียตั้งประเด็นคำถามถึงมาตรการการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงที่มีการเฝ้าระวังและป้องกันการติดเชื้อไวรัส COVID-19

จากกรณีสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ที่มีการระบาดนั้น ทำให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังและกังวลในเรื่องการติดเชื้อดังกล่าว จึงอาจทำให้เกิดปัญหาไม่กล้าเป่าลมหายใจผ่านเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ตรวจวัดตามจุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่ต่างๆ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากสาเหตุการเมาแล้วขับ

ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงไปกำชับและกำกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด

โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดมาตราการและแนวทางการปฏิบัติในการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่นั้น ได้กำชับให้สวมถุงมือทุกครั้งและล้างมือบ่อย ๆ

โดยให้ผู้ถูกตรวจฉีกซองของหลอดเป่าเอง เพื่อให้ผู้ถูกตรวจมั่นใจว่าเป็นหลอดใหม่ ไม่ได้ใช้ซ้ำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่องตรวจด้วยแอลกอฮอล์ 70% ทุกครั้งก่อนและหลังใช้ทุกราย โดยหลังจากตรวจวัดเสร็จแล้ว ให้ทิ้งหลอดเป่าที่ใช้แล้วในภาชนะที่ปิดมิดชิด

รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ในการปฎิบัติหน้าที่ตรวจวัดแอลกอฮอลล์ด้วยเครื่องเป่านั้น เจ้าหน้าที่จะสังเกตเฉพาะผู้ขับขี่ที่มีกลิ่นสุราหรือพูดจาลักษณะคล้ายคนเมาสุรา เจ้าหน้าที่จึงจะขอทำการตรวจสอบโดยเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนผู้สัญจรผ่านไปมา

โดยขณะนี้ผู้บังคับบัญชาในทุกพื้นที่มีการลงไปกำกับดูแล ตรวจสอบความพร้อม อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการปฎิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานและประชาชน ในห้วงที่มีการเฝ้าระวังและป้องกันการติดเชื้อ covid-19

อีกทั้งสำหรับมาตรการดังกล่าวนั้น เป็นมาตรการที่จะดำเนินการตลอดทั้งปี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในผู้ขับขี่ เพื่อเป็นการป้องกัน ไม่ให้คนเมาไปขับรถ เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้ใช้รถใช้ถนนที่ร่วมทาง

ซึ่งจากข้อมูลสถิติอุบัติเหตุการบาดเจ็บและเสียชีวิตทางจราจรนั้น พบว่าสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุยังคงเป็นการดื่มแล้วขับ ประกอบกับในช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ ปี 2563 ที่จะถึงนี้ จึงมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการดื่มแล้วขับ

โดยขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในการใช้เครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจดังกล่าว และขอให้ความร่วมมือและเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการปฎิบัติหน้าในการป้องกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินต่อผู้ใช้รถใช้ถนนให้เกิดความปลอดภัย