ประเด็นน่าสนใจ
- คนไม่คึกคัก นทท.บางตา
- ผู้ประกอบพร้อมทำตามมติ ครม. เพื่อความปลอดภัยปชช.
บรรยากาศสถานบันเทิง ถนนข้าวสาร กรุงเทพมหานคร นักท่องเที่ยวลดลง ไม่คึกคัก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นผลมาจากข่าวพบ ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะเดียวกันเป็นผลมาจากมติคณะรัฐมนตรี ที่มีคำสั่งให้ สถานบริการ ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล หยุดบริการเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18-31 มีนาคม ในแหล่งท่องเที่ยว สถานบันเทิงยามค่ำคืน ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ นิยมมาเที่ยวสังสรรค์
โดยที่ ถนนข้าวสาร พบว่าแต่ละร้านมีมาตรการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ในค่ำคืนนี้ บรรยากาศไม่คึกคัก ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มาเดินอยู่บ้างแต่ก็ค่อนข้างบางตาเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ นายธนวินฑ์ ภิญโญโสภณ เลขานายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า สถานบันเทิง ร้านนวด ในถนนข้าวสารมากกว่า 50 ร้าน ยอมรับและพร้อมปฎิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี
ซึ่งในส่วนการปิด 14 วัน เชื่อว่าร้านค้าทุกร้านยังคงจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างได้ตามปกติ แต่หากมีแนวโน้มปิดเกิน14 วันภาครัฐจะจัดการอย่างไรต่อไป ขอให้ภาครัฐช่วยชี้แจงมาตรการออกมาให้ชัดเจน
ขณะที่พนักงานนวดแผนไทยร้านนวดแห่งหนึ่งบนถนนข้าวสาร ระบุว่า ตั้งแต่เกิดโรคระบาดทำให้รายได้แต่ละวัดลดลง จากปกติมีรายได้เกือบ 2000 บาท ตอนนี้ไม่ถึง 500 บาท ซึ่งตามที่มีประกาศปิด 14 วัน หลังจากนี้คงต้องกลับไปอยู่บ้านกักตัว ขาดรายได้ไป ส่วนหลังจาก 14 วันจะกลับมาทำงานหรือไม่นั้นอาจต้องรอดูอีกครั้งหนึ่ง เพราะกลัวโรคระบาดเช่นกัน
ด้านนางสาวญาดา พรเพชรรัมภา ประธานสมาคมผู้ต้าแผงลอยถนนข้าวสาร ให้ข้อมูลว่าการที่ภาครัฐสั่งปิดร้านสถาบันเทิงทั่วกรุงเทพฯ ก็เข้าใจได้เพราะเป็นเรื่องชีวิตและความปลอดภัย แต่ต้องยอมรับว่าร้านค้าในพื้นที่ก็มีผลกระทบไปด้วย
ส่วนตัวก็เห็นหลายร้านค้าเริ่มปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ อาทิ มีการจัดโต๊ะให้มีระยะห่างระหว่างกัน 1 เมตร ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าภายในร้าน เป็นต้น
อย่างไรก็ตามถนนข้าวสารเองก็มีมาตราการดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว ทั้งมีการตรวจคัดกรองทุกคนที่เข้าออกภายในถนนข้าวสาร และ ทุกร้านก็มีเจลล้างมือ รวมถึงมั่นดูแลความสะอาดอยู่ตลอด ซึ่งร้านค้าหลายร้านก็มีความรับผิดชอบต่อสังคมดำเนินการปิดไปล่วงหน้าก่อนมีประกาศดังกล่าวอีกด้วย