18 มีนาคม – เทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ได้หารือกับผู้บริหารสํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และมีมติให้คณะสงฆ์สวดบท รัตนสูตร เพื่อปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ และเพื่อเป็นกำลังใจให้คนไทยผ่านวิกฤตเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะถ่ายทอดสดทั่วประเทศด้วย
เชิญชวนประชาชนไล่ “โควิด-19” ร่วมกันสวดมนต์ ‘รัตนสูตร’
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19 เทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับบริหารสํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เกี่ยวกับการสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน จึงมีมติให้คณะสงฆ์ สวดบท “รัตนสูตร” ทุกการทำวัตรเย็นทุกวัน ซึ่งเป็นความเชื่อแต่โบราณว่าช่วยปัดเป่าโรคภัยได้ โดยเรื่องดังกล่าวได้หารือกับนายกรัฐมนตรี ในการประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้วเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ซึ่งนายกฯ ระบุว่า ดีจะได้เป็นขวัญกำลังใจให้ประชาชน
โดยการสวด บทรัตนสูตร เพื่อปัดเป่าโควิด-19 คาดว่าจะเริ่มสวดกันในวันพุธที่ 25 มีนาคม 2563 เวลา 16.00 น. ผ่านการถ่ายทอดสดทั่วประเทศ เริ่มที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยจะกราบทูลอาราธนาสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมีวัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร และวัดในต่างจังหวัด นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือให้ทุกวัดทั่วราชอาณาจักร และวัดไทยในต่างประเทศ เจริญพระพุทธมนต์บทรัตนสูตร ในช่วงหลังจากทําวัตรเย็นทุกวันจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเข้าสู่ภาวะปกติ
สำหรับประชาชนที่จะร่วมสวดมนต์ สามารถชมถ่ายทอดสดอยู่ที่บ้าน ซึ่งจะมีบทสวดขึ้นให้อ่านจากหน้าจอทีวี แต่ถ้าหากใครต้องการจะไปร่วมกันสวดที่วัด ขอความร่วมมือผ่านจุดคัดกรองก่อนเข้าวัด และต้องนั่งอยู่ห่างกัน 1 เมตร
บทสวด”รัตนสูตร”
ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข
เหล่าภูตทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี
สัพเพ วะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ
ขอหมู่ภูตทั้งปวงนั้น จงเป็นผู้มีใจดีเถิด
อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง
และเชิญฟังคำสดุดีพระรัตนตรัย อันข้าพเจ้ากล่าว โดยเคารพเถิด
ตัสมา หิ ภูตา นิสาเมถะ สัพเพ
ดูก่อนภูตทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายทั้งปวงจงฟังข้าพเจ้า
เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ
ขอท่านทั้งหลาย จงกระทำเมตตาจิต ในประชาชาวมนุษย์เถิด
ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง
ซึ่งเขาทั้งหลาย ทำเทวตาพลีอยู่ ทั้งกลางวันกลางคืน
ตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา ฯ
เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่ประมาท ช่วยคุ้มครองรักษาเขาเหล่านั้นด้วยเถิด
(**ซ้ำ) ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา
ทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้ หรือในโลกอื่น
สัคเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง
หรือรัตนะอันใดอันสูงค่า ในสรวงสวรรค์
นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ
ทรัพย์หรือรัตนะนั้นๆ ที่จะเสมอด้วยพระตถาคตเจ้า ไม่มีเลย
อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระพุทธเจ้า
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด
ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง, ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต
พระศากยมุนีเจ้า ทรงมีพระหฤทัยดำรงมั่น ได้บรรลุธรรมอันใด เป็นที่สิ้นกิเลส เป็นที่สิ้นราคะ เป็นอมตะอย่างแท้จริง
นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ
สิ่งใดๆที่เสมอด้วยพระธรรมนั้น ย่อมไม่มี
อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระธรรม
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด
ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง
พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดทรงสรรเสริญสมาธิว่าเป็นธรรมอันสะอาด
สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ
บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวว่าสมาธิเป็นคุณธรรมอันให้ผลโดยลำดับสม่ำเสมอ
สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ
คุณธรรมอื่น ที่เสมอด้วยสมาธินั้น ย่อมไม่มี
อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระธรรม
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด
เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัตถา
บุคคลเหล่าใด นับเรียงองค์ได้เป็น ๘
จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ
นับเป็นคู่ได้ ๔ คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว
เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา
บุคคลเหล่านั้น เป็นสาวกของพระสุคตเจ้า เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน
เอเตสุ ทันนานิ มะหัปผะลานิ
ทานทั้งหลาย ที่บุคคลถวายในท่านเหล่านั้น ย่อมมีผลเป็นอันมาก
อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์
เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ ฯ
ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด